บอร์ด PPP ผ่านหลักการต่ออายุเช่าที่ราชพัสดุเป็นโรงกลั่นน้ำมัน 30 ปีหนุนลงทุนเพิ่มกว่า 1.2 แสนลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 15, 2016 16:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบในหลักการโครงการจัดให้เช่าที่ราชพัสดุบริเวณถนนสุขุมวิท ตำบลบางพระและตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ. ร่วมลงทุนฯ ปี 2556) เป็นโรงกลั่นน้ำมันต่อเนื่องภายหลังสัญญาเช่าเดิมสิ้นสุดอีกเป็นระยะเวลา 30 ปี

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีวงเงินลงทุนในการพัฒนาในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติมกว่า 120,000 ล้านบาท และจะช่วยเสริมความมั่นคงทางด้านพลังงาน สร้างรายได้และกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ และมอบหมายให้กรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการให้เช่าที่ราชพัสดุตามขั้นตอนของ พ.ร.บ. ร่วมลงทุนฯ ปี 2556 และกฎระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้เช่าที่ราชพัสดุ และการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในที่ราชพัสดุ เช่น การจัดการผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมและดูแลชุมชนโดยรอบที่ราชพัสดุโดยเคร่งครัดต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ รับทราบผลการติดตามความคืบหน้าของ 5 โครงการที่ดำเนินการตามมาตรการ PPP Fast Track ดังนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย - มีนบุรี) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว - สำโรง) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา ๓๕ ในการเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นข้อเสนอที่ให้ NPV ของผลประโยชน์ตอบแทนสูงที่สุด

โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (ช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการส่วนต่อขยาย และคณะกรรมการกำกับดูแลของโครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (ช่วงหัวลำโพง - บางซื่อ) เพื่อให้ได้ข้อยุติตามกำหนดเวลาที่ได้ขยายออกไปถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2559

โครงการ Motorway สายบางปะอิน - นครราชสีมา (M6) และสายบางใหญ่ - กาญจนบุรี (M6) คณะกรรมการ PPP ได้รับทราบความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีที่มีความเห็นว่า กรมทางหลวงอาจมอบหมายให้เอกชนร่วมลงทุนในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ของโครงการดังกล่าวตาม พ.ร.บ. ร่วมลงทุนฯ ปี 2556 จึงเห็นควรให้กรมทางหลวงเร่งรัดดำเนินการเสนอโครงการ M6 และ M81 ต่อคณะกรรมการ PPP โดยเร็ว เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนงานที่กำหนดต่อไป

นอกจากนั้น คณะกรรมการ PPP ยังได้รับทราบฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานทางการเงินของกองทุนส่งเสริมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (กองทุน PPP) ซึ่งปัจจุบันคณะกรรมการกองทุน PPP ได้จัดสรรเงินให้กรมการขนส่งทางบกเพื่อจัดทำผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ตาม พ.ร.บ. ร่วมลงทุนฯ ปี 2556


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ