นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ประเทศไทยจะไม่เป็นแค่ประเทศผู้ส่งออกยางพาราหลักเท่านั้น แต่ประเทศไทยจะต้องเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพาราอันดับ 1 ของโลกให้ได้ หมายถึงห่วงโซ่อุปทานของยางพาราตั้งแต่การผลิตจนถึงการแปรรูปจะต้องสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่ม เป็นประโยชน์ต่อทั้งภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม และประเทศชาติ ซึ่ง กยท. เป็นองค์กรกลางรับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบอย่างครบวงจร ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา
ทั้งนี้ นโยบายที่ผ่านมา กยท.พยายามผลักดันให้เกิดการพัฒนาทั้งระบบ เพื่อให้ยางพาราของไทยมีคุณภาพ พร้อมทั้งเน้นการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยางประเภทต่างๆ ซึ่งหากประเทศไทยปลูกยางมาก และสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยางที่ดีได้มาก ความเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจด้านยางพาราจะอยู่ไม่ไกล ที่สำคัญสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล
"ซึ่งองค์ความรู้ ประสบการณ์ และผลงานวิจัยต่างๆ นับจากนี้ กยท. จะเน้นสร้างผลงานวิจัยให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงต่อวงการยางพาราในอนาคต พร้อมทั้งเป็นประโยชน์ต่อภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถนำยางพาราไปเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พร้อมทั้งลดต้นทุนค่าใช้จ่ายขององค์กรได้"นายธีธัช กล่าว
ดังนั้น หากพี่น้องเกษตรชาวสวนยาง สามารถรวมกลุ่มกันและวางแผนในการนำยางพาราที่มีอยู่มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มรายได้ ทาง กยท.ยินดีให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ ความรู้ และเงินทุน โดยสามารถขอรับคำปรึกษาและการสนับสนุนต่างๆ จาก กยท.ได้ทุกสาขา เพื่อเป็นการช่วยให้กลุ่มเกษตรกรมีช่องทางในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง เพราะการแปรรูปนั้นถือเป็นอนาคตของยางพารา รายได้ของเกษตรกรจะไม่ต้องขึ้นอยู่กับราคายางเพียงอย่างเดียว กยท.พร้อมให้ความสนับสนุนและหาแนวทางร่วมกัน เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจะเป็นรายได้ที่มั่งคงและยั่งยืนกว่าที่เป็นอยู่