(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิดตลาด 34.29 เหตุดอลลาร์อ่อนค่า หลัง FOMC

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.29 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจาก ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 2-3 พ.ค.ออก มาแล้วส่งสัญญานการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังมากขึ้น

"บาทแข็งค่า เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่ากับทุกสกุลเงินหลักหลังรายงาน FOMC ออกมาส่งสัญญานการระมัดระวังเรื่องการ ปรับขึ้นดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 34.20-34.35 บาท/ดอลลาร์

"บาทแข็งค่าใกล้ระดับแข็งค่าสุดของปีที่ 34.26 บาท/ดอลลาร์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา วันนี้อาจเห็นทางการเข้ามา ดูแลเพื่อไม่ให้กระทบต่อการส่งออก" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 34.2367 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (25 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.40537% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (25 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.53517%

ปัจจัยสำคัญ

เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 111.62 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 111.79 เยน/ดอลลาร์
ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1221 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1182 ดอลลาร์/ยูโร
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.4590 บาท/

ดอลลาร์

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.63% แตะที่

6.8695 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้

ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.25% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการ

คงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของ

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

หากเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,012.42 จุด เพิ่มขึ้น 74.51 จุด หรือ +0.36% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,404.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด หรือ +0.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,163.02 จุด เพิ่มขึ้น 24.31 จุด หรือ +0.40%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุน

ชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบรายงานการประชุมเฟด โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 392.37 จุด ขณะที่

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,642.87 จุด ลดลง 16.28 จุด หรือ -0.13% ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่

5,341.34 จุด ลดลง 6.82 จุด หรือ -0.13%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) สวนทางกับตลาดหุ้นหลายแห่งในยุโรปที่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่

โดยนักลงทุนได้คลายความผิดหวังจากข้อมูลผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง รวมถึงการที่มูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับ

ความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก ได้ประกาศหั่นเครดิตของจีนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี โดยดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 29.61

จุด หรือ +0.40% ปิดที่ 7,514.90 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย

ก่อนที่การประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะมีขึ้นในวันนี้ อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมัน

ดิบที่ลดลงมากกว่าคาดการณ์ของสหรัฐ ได้ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบในระหว่างวัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง

11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 51.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4%

ปิดที่ 53.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังเฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับ

ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ในรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบ

เดือนมิ.ย. ลดลง 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ระดับ 1,253.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลด

ลง 2.2 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 17.117 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ

0.22% ปิดที่ 947.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 10.70 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 761.65

ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) ขณะ

ที่นักลงทุนซึมซับรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของเฟด ซึ่งออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะ

ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ

1.1201 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1179 ดอลลาร์ ขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2949 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2965 ดอลลาร์ และ

ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ะดับ 0.7486 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7483 ดอลลาร์

ส่วนดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.76 เยน จากระดับ 111.73 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ ฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9746 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9759 ฟรังก์สวิส

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิดตลาด 34.29 เหตุดอลลาร์อ่อนค่า หลัง FOMC ส่งสัญญานขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด