น.ส.จริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า แนวโน้มสถานการณ์สินค้า เกษตรในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยประเมินจากปัจจัยต่างๆ คือ ผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ภาคเกษตรน่าจะ เติบโตได้ในกรอบคาดการณ์ตั้งแต่ต้นปีที่ 2.5-3.5% ค่ากลางคือ 3%
นอกจากนี้ ปัจจัยสภาพดินฟ้าอากาศปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว ปริมาณฝนกระจายตัวกว่าปีที่แล้ว ไม่มีปัญหาภัยแล้งหรือเอลนิญโญ่แบบ ที่เคยเกิดขึ้นในช่วง 2 ปีก่อน ทำให้พืชไร่ เช่น ข้าว ผลไม้ภาคใต้ ไม้ผล ไม้ยืนต้น เช่น ยางพาราและปาล์มน้ำมันผลผลิตออกดี แต่ ในส่วนของราคายังต้องพิจารณาและติดตามปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับแต่ละสินค้าอย่างต่อเนื่อง
เมื่อพิจารณาในส่วนของสินค้าสำคัญ อย่าง ยางพารา ปี 60 ไทยมีพื้นที่ปลูกยาง 22.95 ล้านไร่มากเป็นอันดับ 2 ของ โลกรองจากอินโดนีเซีย ด้านประมาณการผลผลิตยางไทยอยู่ที่ 4.3-4.4 ล้านตันสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก รองลงมา คือ อินโดนีเซีย และเวียดนาม
ด้านการส่งออก คาดว่าปี 60 ไทยจะยังส่งออกยางได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่ 3.6-3.7 ล้านตัน เนื่องจากมี มาตรการความร่วมมือในการจำกัดปริมาณการส่งออกยางพาราของ 3 ประเทศ (ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย) เพื่อยกระดับราคาส่ง ออกให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดส่งออกยางพาราของไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 59 สรุปได้ดังนี้
ประเทศปลายทาง 2559 (ม.ค.-พ.ค.) 2560 (ม.ค.-พ.ค.) เพิ่มขึ้น/ลดลง ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า จีน 0.69 32.36 0.71 52.03 1.99% +60.79 มาเลเซีย 0.16 7.87 0.15 11.69 -6.82% +48.55 สหภาพยุโรป 0.13 6.48 0.12 9.16 -12.65% +41.42 ญี่ปุ่น 0.10 4.64 0.09 7.80 -4.33% +67.87 สหรัฐอเมริกา 0.08 3.83 0.08 6.30 -1.66% +64.49 อื่นๆ 0.23 10.73 0.22 16.54 -5.22% +54.12 รวม 1.39 65.92 1.36 103.52 -2.26% +57.05
ที่มา: กรมศุลกากร (กรกฎาคม 2560) ปริมาณ: ล้านตัน, มูลค่า:พันล้านบาท
"มูลค่าส่งออกยางพาราสูงขึ้นจากปีก่อนเนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามหลายสำนักวิจัยของ ธนาคารต่างๆ คาดการณ์ว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังราคาน้ำมันน่าจะเท่ากับหรือสูงกว่าระดับ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลทำให้เราก็ยัง เชื่อว่าน่าจะยังเป็นผลดีต่อราคายาง"น.ส.จริยา กล่าว
น.ส.จริยา กล่าวว่า ปัจจัยที่สองคือปริมาณผลผลิตยางในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งขณะนี้เราคาดการณ์ผลผลิตในประเทศที่จะ ออกมามีประมาณ 58-60% ความต้องการใช้ยางในประเทศคู่ค้ายังมีอยู่มาก เนื่องจากนโยบายของทุกประเทศที่เป็นประเทศ อุตสาหกรรมพัฒนาแล้วคือต้องพยายามทำให้เศรษฐกิจในประเทศตัวเอง เศรษฐกิจของโลกโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเติบ โตต่อไป จึงจำเป็นต้องขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ อุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมที่ต้องใช้สมองประดิษฐ์ต้องพัฒนาต่อไปไม่หยุด ซึ่งยางพาราก็มีส่วนคำญต่อ อุตสาหกรรมเหล่านี้
แต่ขณะเดียวกันก็ต้องติดตามตัวเลขสต็อกยางในตลาดโลก เพราะไทยยังพึ่งพาการส่งออกยางถึง 85% ขณะที่ 15% คือ ใช้ในประเทศซึ่งภาครัฐก็มีนโยบายส่งเสริมการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยใหม่ที่เพิ่งเข้ามาคือเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 2 ปีถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนผล ผลิตยางของประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นผู้ผลิตรายใหม่ เช่น จีน เวียดนาม ลาว ช่วงแรกนี้ยังเชื่อว่าปริมาณและคุณภาพอาจจะยังสู้ไทยไม่ ได้ แต่ระหว่างทางก็ควรสนับสนุนให้เกษตรกรเร่งปรับปรุงคุณภาพยางและหันมาเน้นการแปรรูปสินค้าที่เป็นปลายน้ำมากขึ้น
ด้านดัชนีรายได้เกษตรชาวสวนยางรายเดือนของประเทศไทยในช่วงปีเดือน มิ.ย.60 อยู่ที่ 182.78 มากกว่าช่วงเดียว กันของปี 57-59 ที่อยู่ที่ 179.38, 163.86 และ 154.06 ตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้นจากปริมาณผลผลิตที่เก็บเกี่ยวและออกสู่ตลาด และราคาที่ขายได้ และเมื่อดูดัชนีรายได้เกษตรกรชาวสวนยางช่วงครึ่งปีแรกปี 60 พบว่าดีกว่าช่วงเดียวกันของปี 59 เช่นกัน
"เรายังเชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 ดัชนีรายได้เกษตรกรชาวสวนยางก็น่าจะยังเป็นบวกตาม GDP ภาค เกษตร"น.ส.จริยา กล่าว
ดัชนีรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง :
ปี ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. 2559 147.43 96.75 38.84 35.61 103.35 154.06 2560 294.12 213.51 65.12 49.36 121.18 182.78
ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สศก.