พาณิชย์ เผยพ.ย.ยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่-มูลค่าโตต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ MoM คาดทั้งปีโต 8%

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 19, 2017 16:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยผลการจดทะเบียนธุรกิจเดือนพ.ย.60 ว่า ในส่วนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศจำนวน 6,597 ราย เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.60 จำนวน 6,003 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 594 ราย คิดเป็น 10% และเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.59 จำนวน 5,799 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 798 ราย คิดเป็น 14%

ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 749 ราย คิดเป็น 11% รองลงมาคือธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 637 ราย คิดเป็น 10% และธุรกิจร้ายขายปลีกเครื่องประดับ (ร้านขายทอง) จำนวน 224 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ

มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในเดือน พ.ย.60 มีจำนวนทั้งสิ้น 68,462 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.60 จำนวน 39,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 28,739 ล้านบาท คิดเป็น 72% และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.59 จำนวน 16,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 52,458 ล้านบาท คิดเป็น 328%

สำหรับธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท มีจำนวน 6,015 ราย คิดเป็น 91% รองลงมา คือ ทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 447 ราย คิดเป็น 7% และทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 135 ราย คิดเป็น 2% โดยมีธุรกิจที่ทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท จำนวน 6 ราย ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 5 ราย และธุรกิจบริหารงานและการวางแผนธุรกิจให้กับบริษัทในเครือ จำนวน 1 ราย รวมมูลค่าทุนทั้งสิ้น 10,610 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ มีธุรกิจจัดตั้งทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 พ.ย. 60) จำนวน 1,428,523 ราย มูลค่าทุน 21.95 ล้านล้านบาท โดยธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 679,805 ราย มูลค่าทุน 16.06 ล้านล้านบาท จำแนกเป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 181,253 ราย คิดเป็น 26.66 % บริษัทจำกัด 497,375 ราย คิดเป็น 73.17% และบริษัทมหาชนจำกัด 1,177 ราย คิดเป็น 0.17%

ขณะที่ ธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการในเดือน พ.ย.มีจำนวน 2,306 ราย เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.60 ซึ่งมีจำนวน 1,797 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 509 ราย คิดเป็น 28% และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.59 ซึ่งมีจำนวน 2,397 ราย ลดลงจำนวน 91 ราย คิดเป็น 4%

ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป จำนวน 218 ราย คิดเป็น 10% รองลงมาคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 113 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจค้าสลาก จำนวน 71 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ

มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการในเดือน พ.ย.60 มีจำนวนทั้งสิ้น 7,518 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.60 ซึ่งมีจำนวน 10,030 ล้านบาท ลดลงจำนวน 2,512 ล้านบาท คิดเป็น 25% และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.59 ซึ่งมีจำนวน 8,229 ล้านบาท ลดลงจำนวน 711 ล้านบาท คิดเป็น 9%

ธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน ทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท มีจำนวน 2,189 ราย คิดเป็น 94.93% รองลงมา คือทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 110 ราย คิดเป็น 4.77% และทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 7 ราย คิดเป็น 0.30% โดยมีธุรกิจที่ทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท จำนวน 1 ราย ได้แก่ธุรกิจโรงแรม /ภัตตาคาร

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ม.ค.-พ.ย. 60 มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวน 68,212 ราย มีมูลค่าทุนทั้งสิ้น 372,706 ล้านบาท

"เห็นได้ว่ามีจำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น จำนวน 8,334 ราย คิดเป็น 14% เมื่อเทียบกับ ม.ค.-พ.ย.59 ซึ่งมีจำนวน 59,878 ราย จะเห็นได้ว่าการจัดตั้งธุรกิจในปี 60 เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน เป็นผลมาจากภาคเอกชนเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ ที่มีการฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ประกอบกับรัฐบาลได้ออกมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ “ช้อปช่วยชาติ” ให้ประชาชนเพิ่มการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการช่วงปลายปี ซึ่งส่งผลดีให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ"

สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลจากมาตรการนี้ คือ ธุรกิจค้าปลีก สินค้าและบริการ รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยว นอกจากนี้ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังคงเป็นธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูง ติดอันที่ 1 และ 2 อย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจากมาตรการกระตุ้นการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ยังส่งผลดีในเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดว่าการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจปี 60 จะมีจำนวนถึง 72,000 ราย ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 8% เพราะภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ประกอบกับ รัฐบาลออกมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช็อปช่วยชาติ ส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศ โดยธุรกิจที่ได้รับผลดีจากมาตรการนี้ คือ ธุรกิจค้าปลีก สินค้าและบริการ รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยว

ส่วนปี 61 ตั้งเป้าว่าจะมีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 75,000 ราย หรือเพิ่มขึ้น 5% จากเศรษฐกิจดีขึ้น การกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของรัฐบาล และมาตรการช่วยเหลือสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ