ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.85/87 อ่อนค่าต่อจากช่วงเช้าหลังเงินไหลออก ตลาดลุ้นเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด พรุ่งนี้ลุ้นบาทแตะ 32

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 8, 2018 17:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.85/87 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.65 บาท/ดอลลาร์

เย็นนี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าไปค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับช่วงเช้า สาเหตุเป็นเพราะมีเงินไหลออก เนื่องจากตลาด ประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดไว้ และทำให้มีความต้องการซื้อ ดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น

"บาทอ่อนวันนี้มาจาก fund flow เป็นสำคัญ เงินทุนไหลออกไปต่างประเทศ เพราะตลาดมองว่าเฟดอาจปรับขึ้น ดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่าได้ต่อ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 31.75-32.00 บาท/ ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.75 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.30 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2230 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2270 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,786.66 จุด เพิ่มขึ้น 1.22 จุด (+0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 55,936 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,337.31 ลบ.(SET+MAI)
  • กระทรวงการคลัง รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีจำนวน 6,371,416.12 ล้านบาท
หรือคิดเป็น 41.76% ของ GDP แบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 5,027,438.43 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 940,263.45 ล้านบาท หนี้รัฐ
วิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 393,062.98 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 10,651.26 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อ
เปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 45,947.43 ล้านบาท
  • สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) มีแผนกู้เงินในปี 61 จำนวน 1.124 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย การกู้เงิน
ใหม่ จำนวน 607,251 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 จำนวน 450,000
ล้านบาท และสนับสนุนการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และการกู้เงินปรับโครงสร้างหนี้เดิม จำนวน 516,755 ล้านบาท
ซึ่ง สบน.เห็นควรระดมทุนจากภายในประเทศ โดยการกู้เงินในรูปแบบพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้อื่นๆ เป็นหลัก โดยมีการกู้เงิน
สกุลต่างประเทศจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศบางส่วนสำหรับโครงการที่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ
  • สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เตรียมจัดสรรวงเงินจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลังเพิ่ม
เติม ครั้งที่ 2 จำนวน 5,000 ล้านบาท ตามรุ่นอายุและอัตราดอกเบี้ยเดิม คือ เป็นพันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร (Scripless) รุ่น
อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.85% และรุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.45% จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.-30 มี.ค.61
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร โดยถือเป็นเรื่อง
จำเป็นเร่งด่วนที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร และปรับงบดุลบัญชีให้มีความสมดุล เนื่องจากปี 2561 ถือเป็นปี
แห่งโอกาส ทั้งนี้ ศักยภาพในการทำกำไรของธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนได้อ่อนแอลงอย่างมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเป็น
พิเศษซึ่ง ECB นำมาใช้นั้น ทำให้ภาคธนาคารประสบความยากลำบากในการทำกำไร
  • Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยรายงานการสำรวจเศรษฐกิจโลก "World Economic
Survey" พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซน พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนของปี 2543 โดยได้ปัจจัยหนุน
จากการที่ผู้เชี่ยวชาญในฝรั่งเศสและอิตาลี มีมุมมองที่ดีขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน ทั้งนี้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันของยู
โรโซนยังคงคืบหน้าด้วยดี และการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นเช่นกัน
  • หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แสดงความเห็นในการประชุมผู้นำธุรกิจว่า BOJ
ควรดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% แม้ผลกระทบจากการใช้มาตรการผ่อน
คลายที่มีต่อสถาบันการเงินต่างๆ นั้น กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดก็ตาม พร้อมแนะให้ BOJ จับตาดูว่าการปรับนโยบายการเงินให้กลับสู่
ภาวะปกติของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีผลกระทบอย่างไรต่ออัตราดอกเบี้ยระยะยาวและกระแส
เงินทุนหมุนเวียนในตลาดเกิดใหม่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ