สรท.แนะรัฐเร่งแก้ความแออัดท่าเรือแหลมฉบัง ขยายระบบรางเชื่อมเข้าท่า-สร้าง ICD เพิ่ม-ยกระดับประสิทธิภาพขนถ่ายสินค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 3, 2018 12:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าออกทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาความแออัดของท่าเรือแหลมฉบังที่กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย เนื่องจากทำให้ต้องใช้เวลาการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น จึงมีโอกาสที่สินค้าจะตกเรือสูงขึ้น อีกทั้งทำให้ผู้ส่งออกต้องแบกรับต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น ในปีนี้คาดว่าปริมาณตู้สินค้าขาเข้า-ขาออกทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นไปถึง 9.8 ล้านทีอียู จากสถิติในปีก่อนอยู่ที่ 7,784,498 ทีอียู ทำให้เกิดความกังวลถึงความพร้อมของท่าเรือแหลมฉบังทีปัจจุบันมีสภาพการจราจรแออัด โดยเฉพาะบริเวณทางเข้าท่าเทียบเรือ C1, C2 และ B5 และในบริเวณศูนย์เอ็กซเรย์ของศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะมีรถบรรทุกจอดรอเป็นระยะทางยาวมาก

สรท.จึงเสนอให้ผลักดันการเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางเชื่อมเข้าไปในท่าเรือ โดยกระทรวงคมนาคมควรจัดซื้อหัวรถจักรและแคร่รถไฟ เพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวรถขนส่งให้เพียงพอต่อปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่ง และผลักดันการสร้างสถานีบรรจุตู้สินค้ากล่อง (ICD) แห่งใหม่ในแต่ละภูมิภาค เพื่อเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางเชื่อมเข้าไปยังท่าเรือแหลมฉบังให้มากขึ้น,

ขณะที่ท่าเรือแหลมฉบัง ต้องเร่งรัดการดำเนินโครงการศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operator:SRTO) และต้องประสานกับผู้ประกอบการท่าเทียบเรือเพื่อเตรียมความพร้อมและและวางแผนการเคลื่อนย้ายสินค้าภายในบริเวณท่าเรือร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการดำเนินงานและความแออัดภายในท่าเรือ

นอกจากนี้ ท่าเรือแหลมฉบังต้องหารือร่วมกับท่าเทียบเรือที่ได้รับสัมปทานให้ยกระดับประสิทธิภาพการขนถ่ายสินค้าในท่าเรือ เพื่อลดความแออัดและการรอคอยของรถบรรทุกบริเวณประตูทางเข้า อีกทั้งควรสนับสนุนให้มีการขนสินค้าทางเรือชายฝั่งมากขึ้น พร้อมกำหนดกระบวนการและเส้นทางเคลื่อนย้ายสินค้าจากท่า A0.5 โดยให้รถหัวลากไปยังท่าเทียบเรือระหว่างประเทศ โดยไม่ก่อให้เกิดความแออัดภายในบริเวณท่าเรือ

https://www.youtube.com/watch?v=4tq8Hvpj15g&t=45s


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ