(เพิ่มเติม) รมว.พลังงาน เปิดโครงการส่งเสริมใช้ B20 เริ่มจำหน่ายวันนี้ราคาต่ำกว่าดีเซลปกติ หวังหนุนใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 2, 2018 14:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นต่อการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ที่มีส่วนผสมของน้ำมันไบโอดีเซล ร้อยละ 20 ในรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ คาดว่าจะกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดจะสามารถเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบได้มากขึ้น จากเดิม 1.3 ล้านตัน/ปี เป็น 2 ล้านตัน/ปี โดยการจำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ (2 ก.ค.61) ซึ่งจะมีราคาขายปลีกต่ำกว่าน้ำมันดีเซลปกติ 3 บาท/ลิตร

เบื้องต้นมีผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 จำนวน 5 ราย ได้แก่ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) ,บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ,บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ,บมจ.ซัสโก้ (SUSCO) และบริษัท ซัสโก้ดีลเลอร์ จำกัด ได้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการเพื่อจำหน่ายน้ำมัน B20 ให้กับผู้ประกอบการ fleet รถบรรทุก จำนวน 24 ราย และเรือด่วน อีก 1 ราย ซึ่งกระทรวงพลังงาน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

ทั้งนี้ จากสถานการณ์น้ำมันปาล์มดิบล้นตลาดและราคาตกต่ำ กระทรวงพลังงานได้หาแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลปาล์มน้ำมัน โดยดำเนินการจัดให้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ให้กับรถเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มรถบรรทุกขนส่งสินค้า รถโดยสาร เรือโดยสาร โดยมีเป้าหมายในการจำหน่าย B20 ที่ 15 ล้านลิตร/วัน

โครงการส่งเสริมการใช้น้ำมัน B20 กำหนดให้ราคาขายปลีกน้ำมัน B20 ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลปกติ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนของน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในภาคการขนส่ง เป็นผลให้ลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและค่าโดยสาร อันจะเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน

กระทรวงพลังงานได้ทำการศึกษาทดลองใช้ B20 ในรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่บางยี่ห้อบางรุ่นแล้ว พบว่าไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์ และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงไม่แตกต่างกับการใช้น้ำมันดีเซล หมุนเร็วปกติ นอกจากนี้ยังทำให้ระบบการเผาไหม้ของเครื่องยนต์สะอาดยิ่งขึ้น เป็นการช่วยลดมลภาวะและส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่ทั้งนี้ต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น พร้อมทั้งเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นเร็วขึ้นกว่าปกติ

อนึ่ง รถบรรทุกที่เข้าร่วมโครงการควรมีความสามารถในการดูแลรักษาเครื่องยนต์ของตนเองได้ ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคล รถปิกอัพ รถบรรทุกขนาดเล็ก ขณะนี้ยังไม่มีผลการทดสอบที่แน่ชัด กระทรวงพลังงาน จึงยังไม่แนะนำให้ใช้ในขณะนี้

รมว.พลังงาน กล่าวว่า สำหรับการที่บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกจดหมายส่งถึงตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บรรทุกฮีโน่ ระบุว่ารถยนต์บรรทุกฮีโน่ทุกรุ่นไม่สามารถรองรับน้ำมัน B20 ได้นั้น ขออย่าให้ระบุถึงยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเพราะเป็นเรื่องธุรกิจ โดยก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานประกาศเปลี่ยนการใช้ B5 เป็น B7 ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น JAMA ก็ไม่แนะนำให้เครื่องยนต์ใช้ B7 เช่นกัน แต่นับจากนั้นเป็นระยะเวลา 3 ปีแล้ว ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์

ส่วนความคืบหน้าการใช้ B10 นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาได้ทดลองใช้กับรถไฟแล้ว พบว่าสามารถใช้ได้ แต่ก็ยังเป็นตลาดเล็ก ทำให้เน้นไปที่ B20 เป็นหลัก ส่วนการเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลจาก B7 เป็น B10 สำหรับรถยนต์ทั่วไปนั้น ยังต้องรอผลการศึกษาก่อน อย่างไรก็ตามหากการใช้ B20 ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ก็เชื่อว่าจะสามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ได้ 5-6 แสนตัน/ปี เท่ากับส่วนเกินของประเทศ

นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สหพันธ์ฯมีความเชื่อมั่นว่ารถบรรทุกสามารถใช้ B20 ได้ ทั้งในส่วนของรถยูโร 1 และ 2 ซึ่งมีอายุการใช้งาน 10-20 ปี โดยคาดว่าจะมีรถบรรทุกที่สามารถใช้ B20 เป็นเชื้อเพลิงได้ประมาณ 4 แสนคัน คิดเป็นปริมาณ B20 ราว 15 ล้านลิตร/วัน อย่างไรก็ตามมองว่ารัฐจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นเพื่อขยายยอดใช้ B20 ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ