(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เช้านี้แตะ 33.50 จากเปิดตลาดที่ 33.42 แนวโน้มอ่อนค่าตามทิศทางค่าเงินหยวน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 20, 2018 14:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.42 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.45 บาท/ดอลลาร์ แต่เมื่อเวลา 08.50 น.เงินบาทอ่อนค่าทำนิวไฮนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.61 มาอยู่ที่ระดับ 33.50 บาท/ดอลลาร์ ตามทิศทางค่าเงินหยวน

"เปิดตลาดเช้านี้บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย หลังประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยที่เฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพราะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า ขณะที่ทางการจีนมีการเซ็ตค่าเงินหยวนให้อ่อนค่า ส่งผลให้ค่าเงินตลาดเกิดใหม่อ่อนค่า ตามเงินหยวน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.40-33.55 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (19 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.52295% ส่วน THAI BAHT FIX (6M) อยู่ที่ระดับ 1.51004%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 33.4900 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 112.32 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.00 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1628 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1605 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.3950 บาท/
ดอลลาร์
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการนำเข้า-ส่งออก และดุลการค้า ประจำ
เดือนมิถุนายน 2561
  • กลุ่มธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง ได้ประกาศงบการเงิน โดยในไตรมาส 2 ปี 61 มีกำไรสุทธิรวม 23,911.6 ล้าน
บาท เพิ่มขึ้น 2,250.3 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ครึ่งแรกปี 61 กำไรสุทธิรวม 47,976.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
4,287.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 60 ส่วนใหญ่กำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากปัจจัยสนับสนุนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น จาก
การปล่อยสินเชื่อตามการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ขยายตัวในทุกกลุ่ม ทั้งรายย่อย เอสเอ็มอี และธุรกิจขนาดใหญ่ ส่วนธนาคารไทย
พาณิชย์ปรับลดเพราะได้รับผลกระทบจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล
  • รมว.คลัง เปิดเผยในงานสัมมนา ทิศทางหุ้น ครึ่งปีหลัง (ฟุบหรือไปต่อ) ว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังยังสามารถ
เดินหน้าต่อได้ และมั่นใจว่าทั้งปีจีดีพีจะโตได้ 4.5% แน่นอน แม้ไทยยังต้องเผชิญกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ
และทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ที่ส่งผลให้เงินทุนไหลออก จากไทยถึง 1.5 แสนล้านบาท ต้นปีที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
เพราะไทยมีภูมิคุ้มกันที่ดีอยู่ ทั้งเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง แถมค่าเงินบาทที่อ่อนค่ายังเป็นผลดีต่อการส่งออก
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่
ระดับ 207,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 ขณะที่ Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้
นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่ม
ขึ้น 0.4%
  • Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้น 0.5% ใน
เดือนมิ.ย. โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจาก
เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค.
  • ปธน.ทรัมป์แสดงความไม่เห็นด้วยที่นายพาวเวลระบุว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดย
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า กำหนดเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากจะทำให้สหรัฐเสียเปรียบ
ยุโรป และญี่ปุ่น จากการที่เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่นและยุโรปยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการ
เงิน
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้
(19 ก.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ
50 ปี อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน
นโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ลดความ
น่าดึงดูดของสัญญาทองคำ อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความ
เห็นคัดค้านนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ทันทีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเห็นคัดค้าน

นโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ