(เพิ่มเติม) "สมคิด"โชว์ฝันดันตลาดทุนไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล-เป็นศูนย์กลางอนุภูมิภาค แนะหาผลิตภัณฑ์ใหม่สร้างความพร้อมรองรับ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 15, 2018 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเปิดงาน SET In The City 2018 ว่า ขณะนี้ไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าตลาดทุนไทยมีสถานะที่แข็งแกร่งมาก และสามารถจะเป็นศูนย์กลางตลาดหุ้นในภูมิภาคได้ ดังนั้นขอนักลงทุนว่าอย่าเป็นกังวล อีกทั้งโอกาสของตลาดทุนไทยในอนาคตจะมีมากขึ้น เพราะการลงทุนจากต่างชาติได้เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย เพียงแต่เราจะต้องเตรียมตัวรับมือให้พร้อม

"อนาคต ผมฝันอยากให้ตลาดทุนไทยเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคนี้ ซึ่งจะช่วยประเทศเพื่อนบ้านด้วย ในการที่จะเป็นแหล่งลงทุนให้เขา และของไทยเองด้วย รวมทั้งภูมิภาคเลย อยากให้ตลาดหุ้นสามารถเข้าสู่ยุคดิจิทัลโดยตรง เพราะอนาคตข้างหน้า การเชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศ การจะให้นักลงทุนหนุ่มสาวหน้าใหม่ๆ เข้ามาลงทุนนั้น เดี๋ยวนี้เขาใช้ดิจิทัลกันหมดแล้ว ต้องเข้าสู่ระบบดิจิทัลโดยเร็ว และพยายามหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ กองทุนที่ดีและน่าสนใจ" รองนายกรัฐมนตรีระบุ

ส่วนกรณีของกองทุน LTF ที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเสนอมานั้น นายสมคิด กล่าวว่า ได้บอก รมว.คลังไปแล้วให้ไปดูว่าจะประยุกต์หรือดัดแปลงอย่างไรให้ทันสมัย เหมาะกับเหตุการณ์ และไม่เอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อให้โอกาสทั้งคนหนุ่มสาว ผู้สูงอายุ เข้ามาลงทุนเพื่อการออมในระยะยาวสำหรับอนาคตข้างหน้าได้

"ของเดิมที่จะหมดอายุ (สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการซื้อกองทุน LTF) การจะต่อ หรือไม่ต่อ กระทรวงการคลังจะเป็นคนบอกว่าจะทบทวน หรือพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างไร รมว.คลังกำลังดูอยู่ ไม่ต้องเร่ง เพราะจะหมดปี 62" นายสมคิดระบุ

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ในปี 62 ที่จะหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน LTF ไม่กังวลว่าจะกระทบกับการซื้อขายตลาดรวม เนื่องจากแม้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM)จะมีจำนวนมาก แต่การซื้อขายกองทุน LTF ในแต่ละปีมีไม่มาก จะเห็นว่าช่วงเดือนธ.ค.จะซื้อกองทุน LTF ค่อนข้างมาก ส่วนการขาย LTF ก็ขายตามสิทธิที่ขายได้ วอลุ่มก็มีไม่มากเมื่อเทียบกับทั้งตลาด แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือจะทำอย่างไรให้คนไทยมีการออมระยะยาว และการลงทุนหุ้นที่มีคุณภาพ

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า ข้อเสนอการจัดตั้งกองทุนใหม่ที่จะนำมาทดแทนกองทุน LTF ได้รับการตอบรับจากรองนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะการจัดตั้งกองทุนใหม่ตอบโจทย์รัฐบาลมากขึ้น ให้เป็นกองทุนที่ให้ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางเข้าสู่ตลาดทุน และให้สิทธิเท่ากันที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ 1 แสนบาท ถือครองไม่ต่ำกว่า 10 ปี นอกจากนี้ยังได้ลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และหุ้นยั่งยืน สัดส่วนไม่น้อยกว่า 50% ของกองทุน เพื่อส่งเสริมการเติบโตของประเทศ

ประธานกรรมการ FETCO ยังเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ โดยการเคลื่อนตัวไปทั้งองคาพยพ ที่มีความร่วมมือจากสภาตลาดทุนไทย ที่มี 7 หน่วยงาน กับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมมือกัน ทั้งนี้สอดคล้องกับแผนงานของ FETCO 8 แผนที่ได้นำเสนอก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย 1) เสนอความคิดเห็นและให้คำปรึกษาต่อภาครัฐอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทย 2) จัดทำแผนยุทธศาสตร์ตลาดทุนไทย 3) ติดตามและปรับปรุงแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ 4) ขยายฐานนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนระยะยาว เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดทุนไทย 5) เพิ่มความหลากหลายของตราสารและผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนให้มากยิ่งขึ้น 6) สร้างนักวิเคราะห์การลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มคุณภาพของตลาดทุน 7) สนับสนุนสมาชิกให้ความรู้ด้านการลงทุนขั้นพื้นฐาน (Investment Literacy) แก่ประชาชนทั่วไป และ 8) สนับสนุนสมาชิกในการพัฒนากลไกการทำงานและการนำนวัตกรรมมาใช้ในตลาดทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ