นักวิเคราะห์กล่าวว่า ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค กำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อหาทางหาเงินสดจากรัฐบาลต่างประเทศ เพื่อชดเชยกับการขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์จากปัญหาซับไพรม์ สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารอันดับ 1 ของสหรัฐ และเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค ซึ่งเป็นโบรกเกอร์รายใหญ่ที่สุด มีแนวโน้มว่า จะประสบกับปัญหาการขาดทุนมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ทั้ง 2 บริษัท ซึ่งอยู่ภายใต้การนำของซีอีโอคนใหม่ที่ต้องการสร้างผลงาน คาดว่า จะออกหาเงินทุนในต่างประเทศ ซิตี้กรุ๊ปและเมอร์ริล ลินช์ ได้แสวงหาการลงทุนจากรัฐบาลต่างชาติ เพื่อนำมาใช้รองรับกับภาวะขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการลงทุนที่ไม่ประสบผลสำเร็จในธุรกิจการปล่อยกู้เพื่อการจำนองแก่ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (ซับไพรม์) โดยกองทุนเพื่อความมั่งคั่ง ซึ่งเป็นเครือข่ายการลงทุนที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาล ได้ลงทุนในเมอร์ริล ลินช์, ซิตี้กรุ๊ป ยูบีเอส เอจีของสวิตเซอร์แลนด์ และมอร์แกน สแตนลีย์แล้วประมาณ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ การที่เมอร์ริลลินช์และซิตี้กรุ๊ปกำลังจะตกอันดับลงมาอยู่อันดับ 2 นั้น ชี้ให้เห็นว่าวิกฤติสินเชื่ออาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นนิวยอร์กมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์กันไว้ ริชาร์ด เอ็กซ์ โบฟ นักวิเคราะห์ของพังค์ ซีเกล แอนด์ โค กล่าวว่า สรุปแล้วการขาดทุนของบริษัททั้ง 2 รายอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่ได้มีการประเมินไว้ในเบื้องต้น และทั้ง 2 บริษัทก็ต้องหาเงินทุนเพื่อปรับหน้าต่างบัญชีของตนเอง และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมทั้ง 2 บริษัทต้องหาเงินมากกว่านี้ ทั้งนี้ โฆษกของทั้ง 2 บริษัทยังไม่ได้ติดต่อกลับมาเพื่อให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าว