(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.90 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์อ่อนขานรับประธานเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 29, 2018 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.90 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.00/02 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์ออกมาหลังนายเจอโรม พาวเวล ประธาน ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ออกมาส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

"บาทแข็งค่าตามภูมิภาครับข่าวเฟดชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าที่ส่งผลให้มีแรงเทขายดอลลาร์ออกมา" นักบริหาร
เงิน กล่าว

ปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินในวันนี้น่าจะเป็นการย่อยข่าวเรื่องประธานเฟดไปก่อน หลังจากนั้นในช่วงสุดสัปดาห์ตลาดคงกลับมา จับตาการหารือนอกรอบระหว่าง 2 ผู้นำ คือสหรัฐฯ และจีนในช่วงการประชุม G20

นักบริหารเงินคาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85 - 32.95 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (28 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.29241% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.43352%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.8925 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 113.43 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.75/77 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1371 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1281/1283 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0370 บาท/
ดอลลาร์
  • ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า มาตรการช้อปช่วยชาติที่รัฐบาล
เตรียมนำออกมาใช้ครอบคลุม 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ หนังสือ ยางพารา และสินค้าโอทอป วงเงินใช้จ่ายไม่เกินคนละ 15,000 บาท
มองว่าเป็นเรื่องดี เพราะเป็นมาตรการที่กระตุ้นการใช้จ่ายได้ เช่น ยางรถยนต์ก็อาจทำให้คนเปลี่ยนยางเร็วขึ้น แต่ส่วนตัวมองว่า
มาตรการนี้ยังเฉพาะ และอาจจะแคบไปหน่อย หากกระทรวงการคลังเปิดกว้างให้มีสินค้ามากกว่า 3 ชนิดนี้ก็จะเป็นการดีให้ประชาชน
มีทางเลือกในการใช้จ่ายกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เช่น การเข้าพักโรงแรม 3 ดาว โรงแรมตามท้องถิ่น
  • ค่ายรถยนต์ต่างมองทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ของปีนี้ว่าจะมียอดขายทะลุ 1 ล้านคัน ซึ่งมากกว่าที่คาดการตั้งแต่ต้นปี
ที่ได้ประมาณการณ์ไว้เพียง 950,000-980,000 คันเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมายอดขายรถยนต์เติบโตต่อเนื่อง ด้วยเศรษฐกิจของ
ประเทศที่ขยายตัว จากการลงทุนของภาครัฐและเอกชนในหลาย ๆ โครงการ รวมทั้งข่าวดีในเรื่องการเมืองที่ได้ประกาศเลือกตั้งไป
เมื่อเร็ว ๆ นี้
  • "วีระศักดิ์" เผยสายการบินอินเดียขอเพิ่มเที่ยวบินมาไทยทั้งภูเก็ตและดอนเมือง "แอตต้า" ชี้ในอีก 10 ปีข้างหน้า
นักท่องเที่ยวอินเดียมาไทยแตะ 10 ล้านคน ทดแทนตลาดจีนที่ลดลงชี้โอกาสตลาดจีนโตปีละ 20% จะไม่ได้เห็นอีกต่อไปแต่ยังโตปีละ
5-10% เผยสถานการณ์ท่องเที่ยวจะเข้าสู่ภาวะปกติในเดือน ม.ค.2562
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) โดยมีเนื้อหาว่า ระบบธนาคาร
ของอังกฤษจะเอาตัวรอดจากผลกระทบของการที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ได้ แม้ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน
ประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ที่ระดับ 3.5% ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ต่ำกว่าระดับ 4.2% ในไตร
มาส 2
  • ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐดิ่งลง 8.9% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 544,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำ
สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2559 และเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 พ.
ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้
ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ นายพาวเวลยังเปิดเผยว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ไม่ได้มีการกำหนดนโยบายล่วง หน้าว่าอัตราดอกเบี้ยควรอยู่ในระดับใด และจะทำการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และสภาวะทางการ เงิน ส่วนในเรื่องตลาดหุ้นนั้น นายพาวเวลกล่าวว่า ราคาหุ้นในขณะนี้อยู่ในระดับปกติ และเฟดไม่ได้เห็นความอันตรายที่เกิดจากราคา หุ้นที่พุ่งขึ้นมากเกินไป

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของนายพาวเวลถือเป็นส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การแสดง ความเห็นครั้งล่าสุดของนายพาวเวลยังแตกต่างจากในเดือนต.ค.ซึ่งเขากล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ห่างไกลจากระดับที่เป็น กลาง ซึ่งการแสดงความเห็นในครั้งนั้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนมองว่านายพาวเวลส่งสัญญาณปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยต่อไป และจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และ
การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุว่า
อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,
รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค. และคณะ
กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 7-8 พ.ย.
  • นักลงทุนต่างรอดูการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการ

ประชุม G20 ที่อาร์เจนตินาในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งมีความหวังว่าการประชุมดังกล่าวจะช่วยยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ