ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.82 คาดแกว่งแคบในกรอบ 31.75-31.85 รอพาณิชย์แถลงตัวเลขภาวะการค้าระหว่างประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 19, 2019 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 31.82 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก น้อยจากตอนเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 31.81 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.80-31.83 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้นิ่งมาก ไร้ปัจจัยสำคัญที่จะลากตลาด ขณะที่ตลาดต่างประเทศหลายที่หยุดทำการเนื่องจากเป็น Godd Friday ก่อนจะเข้าสู่วันอีสเตอร์" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า สำหรับปัจจัยที่น่าสนใจคือ กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขภาวะการค้าระหว่างประเทศเดือน มีนาคม 2562 และความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน

พร้อมทั้งประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทเอาไว้ระหว่าง 31.75 - 31.85 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.91 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าอยู่ที่ 111.93 บาท/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1245 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าอยู่ที่ 1.1242 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,674.10 จุด ลดลง 0.90 จุด, -0.05% มูลค่าการซื้อขาย 36,009.90 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 182.67 ลบ.(SET+MAI)
  • TMB Analytics ประเมินเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงที่เหลือของปีแตะระดับ 31.16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
แข็งค่าขึ้น 4% จากสิ้นปีก่อน ปัจจัยหนุนมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ การคาดการณ์ดุลการค้าที่ยังคงเป็นบวก และการดำเนินนโยบาย
การเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นของธนาคารกลางหลักของโลก
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งกระทรวงการคลังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการบริโภค
ท่องเที่ยว มาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ โดยให้นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อขับเคลื่อน
เศรษฐกิจ หลังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 2 ชะลอตัว

ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ระบุว่า ได้จัดเตรียมงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจใน ช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างรอรัฐบาลใหม่ อาทิ มาตรการภาษีกระตุ้นด้านท่องเที่ยว ด้านการศึกษา พร้อมเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่ง รัฐซื้อเครื่องเขียน ชุดนักเรียน

  • นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า จากการประมาณการเศรษฐกิจไทยใน
ปี 2562 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.8% นั้น แม้จะปรับลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนแต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพของระบบ
เศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งมีปัจจัยจาก บรรยากาศด้านการค้าระหว่างประเทศที่ดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกที่ยังได้รับแรงกดดันจากปัญหาสงครามการค้าที่หลายประเทศทั่วโลก ต่างได้รับผลกระทบ ไม่เฉพาะแต่ประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ประกอบการจำนวนมากที่กังวลต่อมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ และจีนที่จะออกมา จึงได้สั่งนำเข้าสินค้าไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ดังนั้นจึงส่งผลให้ยอดสั่งคำซื้อและยอดการผลิตในช่วงต้นปี นี้จึงต่ำกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการกีดกันทางการค้า แต่เมื่อสินค้าที่สั่งไปก่อนล่วงหน้าได้ทยอยลดลง ก็เชื่อว่าจะส่ง ผลดีต่อการผลิตของประเทศต่างๆ รวมทั้งการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ให้เพิ่มขึ้น

  • นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่า ในระยะหลังอัตราเงินเฟ้อไม่ได้เป็น
แรงกดดันต่อการดำเนินนโยบายการเงินมากนัก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อมีสาเหตุมาจาก supply side และเป็นทิศ
ทางเช่นเดียวกันในหลายประเทศ การที่อัตราเงินเฟ้อยู่ในระดับต่ำใกล้ขอบล่าง ต้องพิจารณาว่ามีสาเหตุมาจากจุดใด ซึ่งหากเป็น
เพราะสาเหตุจาก supply side ก็ไม่น่ากังวลมากนัก ตราบใดที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศยังสามารถขับเคลื่อนไปได้ การ
บริโภคและการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนยังเป็นไปตามปกติ
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวกรมสรรพากรออกประกาศการเก็บภาษีเงินฝาก
จากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สำหรับผู้ที่ได้รับดอกเบี้ยฝาก 2 หมื่นบาทต่อปี จากเดิมที่มีการผ่อนผันให้ข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่ลงทะเบียน
ยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลการรับดอกเบี้ยให้กรมสรรพากรว่า กฎหมายเรื่องการเก็บภาษีจากดอกเบี้ยที่ได้รับจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์
นั้นเป็นเรื่องปกติที่มีมานานแล้ว และมองว่าสิ่งที่กรมสรรพากรดำเนินการนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้วเช่นกัน เพราะเป็นการแก้ไข
ปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีของผู้ที่มีเงินฝากจำนวนมาก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ