พาณิชย์ คาดสหรัฐขึ้นภาษีจีนรอบนี้ไม่กระทบไทยมากไปกว่าปี 61 ชี้เป็นโอกาสมากกว่าอุปสรรค

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 8, 2019 17:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ รักษาการ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ติดตามสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งมีแนวโน้มว่าสหรัฐฯอาจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 25% จากระดับ 10% ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.นี้เป็นต้นไป แต่จากการประเมินของกระทรวงพาณิชย์ หากสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีจริง คาดว่าการส่งออกไทยในปีนี้คงจะไม่ได้รับผลกระทบมากขึ้นไปกว่าที่เคยได้รับไปแล้วในปี 2561 เนื่องจากปี 2561 สหรัฐฯ ได้ขึ้นภาษีสินค้าจากจีนไปแล้ว 10% และการส่งออกไทยได้รับผลกระทบไปแล้ว ดังนั้นหากปรับขึ้นอีกจะไม่กระทบต่อการส่งออกไทยเพิ่มขึ้นมากนัก

ในปี 2561 สงครามการค้าทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยลดลง 779 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 0.3% ของมูลค่าการส่งออกทั้งปี 2561 ที่ 252,000 ล้านเหรียญฯ โดยทำให้ไทยส่งออกไปจีนได้ 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าลดลงในสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีน เช่น ยานพาหนะและส่วนประกอบ, ของใช้ในบ้าน/สำนักงาน, ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์และแผงวงจร, เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกล แต่กลับส่งออกไปสหรัฐฯได้ 11,000 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น เพราะสหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากไทยเพื่อทดแทนสินค้าจีนที่สหรัฐฯขึ้นภาษี เช่น ยานพาหนะและส่วนประกอบ, เครื่องประดับ, ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์และแผงวงจร, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องจักรและส่วนประกอบ และอาหารปรุงแต่งและเครื่องดื่ม

"หากสหรัฐฯขึ้นภาษีเป็น 25% จริง ต้องดูว่าจะเป็นสินค้าใดบ้าง ถ้าเป็นรายการเดิมที่ขึ้นไป 10% เมื่อปีที่แล้ว การส่งออกไทยไม่น่าได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นอีกมากนัก แต่ถ้าเป็นรายการใหม่ๆ ก็ต้องมาดูกันอีกที แต่เชื่อว่า ไทยน่าจะมีโอกาสส่งออกได้มากกว่าเป็นอุปสรรค เพราะสหรัฐฯ น่าจะนำเข้าจากไทยมากขึ้นเพื่อทดแทนสินค้าจีน ซึ่งมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น จะชดเชยมูลค่าส่งออกไปจีนที่ลดลงได้ แต่ไทยต้องรุกตลาดส่งออกควบคู่กันไปด้วย เราต้องมองให้เป็นโอกาส และพยายามผลักดันการส่งออกให้ได้" รมช.พาณิชย์ระบุ

อย่างไรก็ดี ขณะนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดทำแผนรุกตลาดส่งออกไว้แล้ว โดยจะเน้นเจาะตลาดที่เป็น มณฑล รัฐ และเมืองรองมากขึ้น ทั้งในสหรัฐฯ จีน และอินเดีย รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่สินค้าไทยยังมีโอกาสด้วย ขณะเดียวกัน จะประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำประเทศต่างๆ ทั่วโลกวันที่ 31 พ.ค.นี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออก รวมถึงแผนผลักดันการส่งออกเมืองรองต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ