ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยสินเชื่อระบบแบงก์ เม.ย.เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แม้สินเชื่อบ้านเริ่มชะลอลง หลังใช้มาตรการ LTV

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 24, 2019 15:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2562 พบว่า สินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือน เม.ย. 2562 แม้เป็นเดือนแรกที่มาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เริ่มมีผลบังคับใช้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยสินเชื่อสุทธิยังคงขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อีก 2.67 หมื่นล้านบาทซึ่งทำให้ยอดคงค้างสินเชื่อสุทธิพลิกเป็นบวกเล็กน้อย 0.12% YTD เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561

ทั้งนี้ สถานการณ์สินเชื่อในเดือนเม.ย. 2562 กลับมาได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้นจากสัญญาณการเบิกใช้สินเชื่อของภาคธุรกิ จ โดยเฉพาะในส่วนของเงินทุนหมุนเวียนประกอบกับสินเชื่อรายย่อยบางประเภท มีแรงหนุนจากปัจจัยเชิงฤดูกาล เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยังคงขยับขึ้นสอดคล้องกับทิศทางของยอดขายรถยนต์ในประเทศที่มีแรงหนุนจากงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ช่วงปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีสัญญาณชะลอลงในเดือนเม.ย. 2562 หลังจากที่ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 5.4 หมื่นล้านบาทโดยเฉลี่ยต่อไตรมาสในช่วงไตรมาสที่ 4/2561-ไตรมาสที่ 1/2562 ที่ผ่านมา ตามการเร่งตัวของกิจกรรมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ก่อนมาตรการ LTV ของธปท. จะเริ่มบังคับใช้ ขณะที่สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอียังเผชิญข้อจำกัดในการฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจในภาพรวม

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ภาพรวมสินเชื่อสุทธิชะลอการขยายตัวลงมาที่ 4.58% YoY ในเดือนเม.ย. 2562 จาก 4.98% ในเดือนมี.ค. 2562

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศในปีนี้ยังมีโอกาสขยายตัวใกล้เคียงตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.0% แต่จะติดตามปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงส่งการฟื้นตัวของภาพรวมสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ในระยะข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่เงินฝากในเดือน เม.ย.2562 เร่งขึ้นมากกว่าสินเชื่อซึ่งมีผลทำให้ภาพรวมสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ผ่อนคลาย โดยสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากที่รวมเงินกู้ยืม (Loan to Deposit+Borrowing: L/D+BE) ณ เม.ย. 2562 ปรับตัวลงมาที่ 91.59% จากระดับ 92.29% ในเดือน มี.ค. 2562 และ 92.71% ณ สิ้นปี 2561 ทั้งนี้ ยอดคงค้างเงินรับฝากปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1.39 แสนล้านบาทในเดือน เม.ย.2562 โดยเพิ่มขึ้นทั้งบัญชีกระแสรายวัน ออมทรัพย์ และประจำ จากทั้งบัญชีบุคคลธรรมดา นิติบุคคล และเงินฝากภาครัฐ ทั้งนี้ เงินฝากที่เพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมดมาจากธนาคารหลักเพียงไม่กี่แห่ง ซึ่งส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากโอกาสการขยายสินเชื่อ และปัจจัยพิเศษที่ทำให้แต่ละธนาคารมีความเคลื่อนไหวต่อการระดมเงินฝากแตกต่างกัน อาทิ การทำตลาดเงินฝากออนไลน์

อย่างไรก็ดี การแข่งขันด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยที่เกิดขึ้นในระยะนี้ เพราะขึ้นอยู่กับสัญญาณอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. และความชัดเจนในการฟื้นตัวของภาพรวมสินเชื่อและเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ