ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.86 ทรงตัวจากช่วงเช้า แม้ระหว่างวันผันผวน ตลาดรอความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาลช่วงสุดสัปดาห์นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 24, 2019 17:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.86 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ 31.86 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.84-31.94 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้วิ่งกว้างพอสมควร ช่วงเช้าบาททำท่าจะอ่อนค่า แต่มาช่วงบ่ายมีแรงขายดอลลาร์ และปิดตลาดที่ระดับเดียวกับตอน เปิดตลาดช่วงเช้า" นักบริหารเงิน กล่าว

โดยหลักๆ ตลาดยังคงติดตามกระแสข่าวสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ขณะที่ระหว่างวันมีข่าวเรื่องนายกรัฐมนตรี อังกฤษเตรียมแถลงการลาออก แต่ก็ส่งผลค่อนข้างจำกัดต่อเงินบาท โดยจะไปส่งผลต่อค่าเงินปอนด์มากกว่า"นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน กล่าวถึงทิศทางของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าว่าต้องรอดูความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งวันพรุ่งนี้จะมีการประชุม เลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะนำไปสู่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รวมถึงความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล

เบื้องต้นประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้าไว้ระหว่าง 31.80 - 31.90 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 109.67 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 109.70 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1195 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1183 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,614.12 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด, +0.27% มูลค่าการซื้อขาย 55,153.38 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 366.63 ลบ.(SET+MAI)
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนเมษายน
2562 พบว่า สินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือน เม.ย. 2562 แม้เป็นเดือนแรกที่มาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
เริ่มมีผลบังคับใช้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยสินเชื่อสุทธิยังคงขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อีก 2.67 หมื่นล้านบาทซึ่งทำให้ยอดคงค้างสิน
เชื่อสุทธิพลิกเป็นบวกเล็กน้อย 0.12% YTD เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า ขณะนี้การค้าไม่แน่นอนและมีความท้าทายสูง โดย
จะมีการประชุมกับตัวแทนอุตสาหกรรมกว่า 20 สมาคม/กลุ่ม เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ และการปรับกลยุทธ์ผลักดันการส่งออกสินค้า
ศักยภาพในวันที่ 29 พ.ค.นี้ พร้อมกันนี้จะนำผลหารือจากการประชุมเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.)
ในวันที่ 11 มิ.ย. 2562 เพื่อกำหนดแนวทางการรับมือในเรื่องสงครามการค้า และกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์การค้าระยะยาวที่จะต้อง
พิจารณาระบบการค้าและการลงทุน (Trade & Investment Ecosystem) ทั้งระบบให้สอดคล้องกับบริบทใหม่ของการค้าโดยเน้นผลักดัน
และกระตุ้นการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ เอกชน และผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ ต่อไป
  • อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบสถานประกอบการสินค้าอุตสาหกรรม
ต่างๆ เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของถิ่นกำเนิดสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ และหากพบว่าสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ไม่ได้ถิ่นกำเนิดไทยก็จะประสาน
กับศุลกากรสหรัฐฯ และดำเนินการกับผู้ประกอบการไทยที่กระทำไม่ถูกต้อง เพราะกรมฯ ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สินค้าไทยที่ส่งออก
ไปสหรัฐฯ และป้องกันผลกระทบกับผู้ประกอบการไทยที่ผลิตสินค้าได้ถูกต้องตามกฎถิ่นกำเนิดสินค้าที่จะไม่ถูกสหรัฐฯ ขยายมาตรการทางการ
ค้า และสามารถส่งสินค้าไปเจาะตลาดสหรัฐฯ แทนสินค้าจากจีนที่ถูกใช้มาตรการทางการค้าได้เพิ่มมากขึ้น
  • งานวิจัยที่ได้มีการเผยแพร่บนเว็บไซต์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชี้ว่า การปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบล่าสุด
ของสหรัฐ จะทำให้ค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนประจำปีอยู่ที่ 831 ดอลลาร์สหรัฐต่อครัวเรือนต่อ 1 ปี
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า กำลังเสนอกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อกำหนดภาษีต่อต้านการให้เงินอุดหนุนต่อสินค้าจาก
ประเทศที่มีค่าเงินต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวอีกทางหนึ่งที่จะเก็บภาษีเพิ่มขึ้นกับสินค้าของจีน
  • ผลการวิจัยจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พบว่า รายได้จากการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
นั้น "เกือบทั้งหมดได้กลายเป็นภาระที่ธุรกิจนำเข้าของสหรัฐต้องแบกรับ"
  • ผู้บริหารระดับนโยบาย 4 รายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่
รุนแรงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนให้กับภาคธุรกิจต่างๆ และอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
  • รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับลดการประเมินเศรษฐกิจของประเทศลง โดยระบุสัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ท่ามกลาง
ความขัดแย้งด้านการค้ากับสหรัฐ ที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตและการส่งออก
  • นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้แถลงกำหนดการลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ พร้อมกับระบุว่า ผู้ที่จะ
มาทำหน้าที่ต่อจากเธอจะต้องหาทางสรุปฉันทามติเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และที่ผ่านมาเธอได้ทำ
ทุกอย่างเพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมสมาชิกรัฐสภาแล้ว
  • ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนจะยังคงเป็นไปตามการคาดการณ์

ของ ECB ที่ว่า เศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นในช่วงระยะเวลาที่เหลือในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ