(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.73/77 แนวโน้มแข็งค่ารับเม็ดเงินไหลเข้า มองกรอบวันนี้ 30-70-30.85

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 8, 2019 11:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.73/77 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวัน ศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.66 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ แต่แนวโน้มยังไปในทิศทางที่แข็งค่า เนื่องจากยังมีเม็ดเงินจากต่าง ประเทศไหลเข้ามาในตลาด ขณะเดียวกันแม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนมิ.ย. จะออกมาค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ได้ทำให้ ดอลลาร์แข็งค่าจนบาทอ่อนค่าไปได้มากนัก

"บาทก็คงยังแกว่งในกรอบแคบๆ เพราะยังมี flow เข้ามา แม้ตัวเลข Nonfarm ของสหรัฐจะออกมาดี แต่บาทก็ไม่ได้อ่อน ค่าไปมาก" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.70-30.85 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (5 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.45880% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.42623%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 30.8150 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.46 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 108 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1230 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1263 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.6960 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (8-12 ก.ค.) ที่ 30.50-30.80 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจในประเทศน่าจะอยู่ที่การจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย สัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้ม
ดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากสุนทรพจน์ของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูงอื่นๆ ในระหว่างสัปดาห์ ตลอดจน
ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.ของจีน และทิศทางการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่าง
สัปดาห์ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. ตัวเลขสต็อกสินค้าภาคการค้าส่งเดือนพ.ค. รวมถึงบันทึกการประ
ชุมเฟดเมื่อวันที่ 18-19 มิ.ย.
  • นักวิเคราะห์ห่วงบาทแข็งกดดันท่องเที่ยวไทย เผยเงินบาทเทียบหยวนแข็งค่าแล้วกว่า 10-12% หวั่นนักท่องเที่ยวจีน ชะลอ
มาไทย ซ้ำเติมเศรษฐกิจ พร้อมประเมิน ธปท. หั่นวงเงินออกบอนด์ระยะสั้น กดดันภาวะ "เจเคิร์ฟ" ไม่ต่างจากการลดดอกเบี้ยนโยบาย
  • รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นกังวลถึงแนวโน้มการลงทุนช่วงครึ่งหลังปี
2562 เพราะจากการติดตามตัวเลขของประเทศคู่แข่งของไทย คือ ประเทศเวียดนาม พบว่ามียอดการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (เอ
ฟดีไอ) ทั้งคำขอและลงทุนจริง ช่วง 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2562) ขยายตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยประเทศที่เข้าลงทุนหลัก
ประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ขณะที่การส่งออกก็ขยายตัวมากกว่า 30-40% ขณะที่ประเทศไทยพบว่าต่างชาติยื่นคำขอรับ
การส่งเสริมการลงทุนเป็นหลักแต่ยังไม่มีการลงทุนจริงมากนัก
  • ก.พลังงานย้ำแผนผลิตไฟไม่ขัด รธน. รัฐยังเป็นเจ้าของสายส่ง-คุมต้นทุนการผลิตของเอกชน นักวิชาการชี้สัญญารับซื้อ
รัดกุมทำให้มีความมั่นคง
  • สำนักงบประมาณออกโรงการันตี งบประมาณปี 63 ล่าช้า ไม่กระทบรัฐบาลชุดใหม่ มีเงินใช้แน่ๆ 1.2 ล้านล้านบาท แม้งบ
ประมาณปี 63 ยังไม่ประกาศใช้ แย้มงบลงทุนผูกพัน 2.5 แสนล้านบาท ส่วนบัตรคนจนยังมีเหลืออีก 4 หมื่นล้านบาท หากไม่พอใส่เพิ่มให้
อีก 2 หมื่นล้านบาท
  • อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลให้การส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือน
แรก ของปี 2562 (มกราคม - พฤษภาคม) ลดลง 3.1% เมื่อเทียบกับ 5 เดือนแรกของปี 2561
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 224,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งดีดตัว
ขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า จะเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง หลังขยายตัวเพียง 72,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ส่วนอัตรา
การว่างงานเดือนมิ.ย. ขยับขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2512

ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดดังกล่าวทำให้นักลงทุนหมดหวังที่จะเห็นเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมากในการ ประชุมวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

  • นักลงทุน ติดตามนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดมีกำหนดแถลงนโยบายการเงิน และเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรส ใน
วันที่ 10-11 ก.ค.นี้
  • นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐ-จีนในสัปดาห์นี้ โดยโฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า
ทีมเจรจาของจีนและสหรัฐได้ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง โดยจุดยืนของจีนยังคงเหมือนเดิมคือ ข้อพิพาทด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและ
สหรัฐควรจะแก้ไขผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือบนพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน จีนเองขานรับกับข้อเท็จจริงที่ว่า สหรัฐจะไม่เก็บภาษีสินค้า
จีนอีกเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อพิพาทขยายวงออกไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ