ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.86/90 แกว่งแคบแต่มีทิศทางอ่อนค่า มองกรอบพรุ่งนี้ 30.80-30.95

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 18, 2019 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.86/90 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับ ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.85/87 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทิศทางของค่าเงินมากนัก อย่างไรก็ดี เงินบาทเริ่มกลับ มาอ่อนค่าเข้าใกล้ระดับ 31 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศปรับปรุงมาตรการป้อง ปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท

"วันนี้บาทยังวิ่งในกรอบแคบๆ ไม่ค่อยมีปัจจัยอะไรมาก เชื่อว่าตอนนี้บาทเริ่มอ่อนค่ามาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค หลังจากที่แบงก์ชาติมีมาตรการนั้นออกมา" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.80-30.95 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.67/88 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 107.59/80 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1220/1243 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1222/1245 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,723.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด (+0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 54,794 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,405.67 ลบ.(SET+MAI)
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิ.ย.62 อยู่
ที่ระดับ 94.5 ปรับตัวลดลงจาก 95.9 ในเดือนพ.ค.62 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ทำ
ให้การดำเนินนโยบายภาครัฐ และการใช้จ่ายงบประมาณชะลอตัว กระทบต่อการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศ ขณะที่เงินบาทแข็งค่ม
กกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ส่งผลด้านลบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของภาคการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้วัตถุดิบภายใน
ประเทศเป็นหลัก ทำให้ประเทศผู้นำเข้าขอลดราคาสินค้าลง
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จะนำคณะ ส.อ.ท.เดินสายพบรัฐมนตรี
หลายกระทรวง เพื่อนำเสนอความคิดเห็นในการทำงานร่วมกัน เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ตลอดจน
รมว.อุตสาหกรรม, รมว.ศึกษาธิการ, รมว.อุดมศึกษาฯ, รมว.คลัง รวมทั้งการนำเสนอสมุดปกขาวให้กับรัฐบาลหลังการแถลงนโยบาย
  • ประธานคณะกรรมการสายงานแรงงาน ส.อ.ท. แสดงความไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับขึ้นค่าจ้าง
ขั้นต่ำวันละ 400 บาททันที เนื่องจากไม่สามารถตอบโจทย์ใน 3 ประเด็น คือ 1.การยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับผู้
ใช้แรงงาน 2.การพัฒนาคุณภาพ SMEs เพราะจะเป็นการเพิ่มต้นทุนที่อาจส่งผลให้ต้องปิดกิจการหรือเลิกจ้าง และ 3.การแก้ไขปัญหาขาด
แคลนแรงงาน โดยปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวประมาณ 3.7 ล้านคน
  • โฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 ว่าตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ 28
มิถุนายน 2562 (1 ต.ค.61 - 28 มิ.ย.62) รายจ่ายลงทุน (กรณีไม่รวมงบกลาง) มีการใช้จ่ายแล้ว 430,461 ล้านบาท ของวงเงิน
งบประมาณ 555,175 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77.54% สูงกว่าเป้าหมาย 12.54% (เป้าหมาย 65%) โดยมีการใช้จ่ายงบประมาณภาพรวม
แล้วทั้งสิ้น 2,339,406 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 3,000,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77.98% สูงกว่าเป้าหมาย 0.98% (เป้า
หมาย 77%) สำหรับเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี มีการใช้จ่ายแล้ว 290,483 ล้านบาท หรือคิดเป็น 85.28% ของวงเงินงบประมาณ
340,634 ล้านบาท
  • ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่เฟซบุ๊กมีแผนจะเปิดให้บริการเงิน Libra ซึ่งเป็นสกุลเงินดิ
จิทัลในปี 2563 และทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเงิน Libra จะเข้ามาทดแทนสกุลเงินท้องถิ่นอย่างรวดเร็วว่า ต้องขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบ
การเงินของแต่ละประเทศว่ามีมากน้อยเพียงใด เพราะหากประเทศที่สกุลเงินท้องถิ่นเป็นที่เชื่อถือและได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ก็
คงยากที่เงิน Libra จะเข้ามาทดแทนได้
  • ประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 เตรียมสรุปการประชุมเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน โดยได้มีการเรียกร้องให้มีการออกกฎหมาย
เพื่อควบคุมสกุลเงินดิจิทัล Libra ของเฟซบุ๊ก โดยกลุ่ม G7 แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับโครงการของเฟซบุ๊กที่จะสร้างระบบชำระ
เงินผ่านสกุลเงินดิจิทัลภายในปีหน้า ซึ่งมีความเสี่ยงที่สกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้เพื่อการฟอกเงิน หรือการสนับสนุนเงินทุน
แก่กลุ่มก่อการร้าย
  • สื่อต่างประเทศ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการบรรลุข้อตกลง
ร่วมกันนั้น ได้หยุดชะงักลง เนื่องจากอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับประเด็นบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ โดยแม้จะมีรายงานเมื่อเร็วๆนี้ว่า สหรัฐจะ
ผ่อนคลายความเข้มงวดด้านการขายอุปกรณ์บางส่วนให้กับหัวเว่ย แต่ทางการจีนยังคงรอดูว่า สหรัฐจะดำเนินการดังกล่าวอย่างจริงจังหรือ
ไม่ ก่อนที่จะเดินหน้าจัดการเจรจารอบใหม่
  • กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 8.888 แสนล้านเยน (8.2 พันล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งขาดดุลลดลงเนื่องจากการชะลอตัวลงของยอดส่งออกไปยังประเทศในเอเชีย ท่ามกลางข้อพิพาทการ
ค้าที่รุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน
  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ความตึงเครียดด้านการค้าที่เกิดขึ้นในขณะ
นี้ แม้จะยังไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจนทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดโลกไร้ความสมดุล แต่ปัญหาดังกล่าวกำลังกระทบต่อการลงทุนและการ
เติบโตของโลก ดังนั้นประเทศต่างๆ จึงควรหลีกเลี่ยงการดำเนินนโยบายการค้าที่บิดเบือนจากความเป็นจริง
  • ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานในวันนี้ว่า ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียคาดว่า จะยังคงแข็ง

แกร่ง แต่การขยายตัวในปีนี้และปี 2563 จะอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากความต้องการภายในประเทศได้ช่วยบรรเทาสถานการณ์ตึง

เครียดด้านการค้าทั่วโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ