คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติให้ปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งการปรับลดลง และการเพิ่มชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนในช่วงสั้น ๆ ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.62 ถึงวันที่ 10 ม.ค.63 ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก โดยการปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดในช่วงเวลาดังกล่าวลดลงได้ลิตรละ 1 บาท
การปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ทั้งกลุ่มน้ำมันเบนซินและดีเซล ตามกรอบนโยบายการบริหารกองทุนน้ำมันฯ ภายใต้ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ส่งผลให้อัตราเงินส่งเข้ากองทุนเป็นดังนี้
น้ำมันเบนซิน จาก 7.0800 บาท/ลิตร เป็น 6.1500 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 95 จาก 1.1200 บาท/ลิตร เป็น 0.1900 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 91 จาก 1.1200 บาท/ลิตร เป็น 0.1900 บาท/ลิตร
E20 จากชดเชย 1.7800 บาท/ลิตร เป็นชดเชย 2.7100 บาท/ลิตร
E85 จากชดเชย 7.3800 บาท/ลิตร เป็นชดเชย 8.3100 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซล B7 จาก 0.0500 บาท/ลิตร เป็นชดเชย 0.6800 บาท/ลิตร
B10 จากชดเชย 1.8000 บาท/ลิตร เป็นชดเชย 2.9300 บาท/ลิตร
และ B20 จากชดเชย 2.5500 บาท/ลิตร เป็นชดเชย 4.8400 บาท/ลิตร
ภายหลังการปรับเงินกองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ จะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเปลี่ยนแปลงไป
น้ำมันเบนซิน จะอยู่ที่ 33.66 บาท/ลิตร จากเดิม 34.66 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 26.25 บาท/ลิตร จาก 27.25 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 25.98 บาท/ลิตร จาก 26.98 บาท/ลิตร
E20 อยู่ที่ 23.24 บาท/ลิตร จาก 24.24 บาท/ลิตร
E85 อยู่ที่ 18.89 บาท/ลิตร จาก 19.89 บาท/ลิตร
น้ำมันดีเซล B7 อยู่ที่ 26.49 บาท/ลิตร จาก 27.49 บาท/ลิตร
B10 อยู่ที่ 24.49 บาท/ลิตร จาก 25.49 บาท/ลิตร
และ B20 อยู่ที่ 23.49 บาท/ลิตร จาก 24.49 บาท/ลิตร
การปรับเงินกองทุนน้ำมันฯ ส่งผลให้กองทุนมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น 86.47 ล้านบาท/วัน จากเดิมที่มีรายจ่าย 8.01 ล้านบาท/วัน เป็น 94.48 ล้านบาท/วัน หรือจ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพ จำนวน 1,383.52 ล้านบาท ในช่วงระหว่างวันที่ 26 ธ.ค.62-10 ม.ค.63
ณ วันที่ 24 ธ.ค.62 ฐานะกองทุนน้ำมันฯสุทธิ อยู่ที่ 38,409 ล้านบาท แบ่งเป็น ประเภทน้ำมันฯ 43,407 ล้านบาท และประเภทก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ติดลบ 4,998 ล้านบาท