ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.12/14 แกว่งแคบจากช่วงเช้า แต่มีทิศทางอ่อนค่า ธุรกรรมเบาบาง คาดกรอบสัปดาห์หน้า 31.10 - 31.25

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 3, 2020 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.12/14 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.11 บาท/ดอลลาร์

ตลอดทั้งวันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบเพียง 5-6 สตางค์ โดยระหว่างวันแข็งค่าสุดที่ระดับ 31.06/07 บาท/ ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับปิดตลาด โดยช่วงนี้การซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ธุรกรรมน้อย การเคลื่อนไหวเป็นไปตามกระแสของ flow เป็นหลัก

"วันนี้บาทแกว่งแคบมาก ทั้งวันแค่ 5-6 สตางค์ ช่วงนี้ trade เบาบาง การเคลื่อนไหวเป็นไปตาม flow" นัก
บริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน ระบุว่า เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค คาด สัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10 - 31.25 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.46/49 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 107.52 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2300/2333 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1241 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,372.27 จุด ลดลง 1.86 จุด (-0.14%) มูลค่าการซื้อขาย 71,139 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 400.38 ลบ. (SET+MAI)
  • นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล หลังการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ.2564 ว่า รัฐบาลจะเร่งรัดการใช้จ่ายภายในประเทศ เร่งการลงทุนภาครัฐ และเปิดกิจการที่มีศักยภาพ รวมถึงเร่งรัดเปิด
กิจการด้านการรักษาพยาบาล ตลอดจนเร่งการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่ประเทศไทยมีศักยภาพ
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิ.ย.63 หดตัว -
1.57% แต่ปรับตัวดีขึ้นเพราะติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน ในขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเดือนมิ.ย.63 หดตัว -0.05% ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้ง
แรกในรอบ 10 ปี เดือน อย่างไรก็ดี เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยจากสถานการณ์โควิดคลี่
คลาย ส่งผลดีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการบริโภค ทั้งนี้ ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ลงเหลือ -1.5 ถึง -0.7% จาก
เดิม -1.0 ถึง -0.2%
  • กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงการคลัง, ธนาคารกรุงไทย เปิดตัวโครงการ "เที่ยวปันสุข" ซึ่งเป็น
มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว วงเงินงบประมาณ 22,400 ล้านบาท ประกอบ
ด้วยแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน วงเงิน 20,000 ล้านบาท และแพ็กเกจกำลังใจ วงเงิน 2,400 ล้านบาท เริ่มก.ค.-ต.ค.63
  • สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) แนะจัดทำงบประมาณในปี 2564 ควรเน้นยุทธศาสตร์ของประเทศที่มุ่งพัฒนาขีด
ความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เพื่อสร้างจุดแข็งของประเทศใหม่ และเพิ่ม
ศักยภาพ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลง และรับมือกับปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ที่เปลี่ยนแปลงจากผล
กระทบของโรคไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของโลกชะลอตัว และต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปีกว่าจะฟื้นตัว
กลับมา
  • สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 10 ปีว่า อัตราว่างงาน
ของสหรัฐอาจจะลดลงแตะระดับ 10.5% ในไตรมาส 4/63 และจากนั้นจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 7.6% ในไตรมาส 4/64 ทั้งนี้ แม้
อัตราว่างงานมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ CBO คาดว่าอัตราว่างงานจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 4.4% ได้ในไตรมาส 4/73 ซึ่ง
แสดงให้เห็นว่าผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อตลาดแรงงานสหรัฐนั้น จะกินระยะเวลายาวนานไปจนถึงทศวรรษหน้า
  • ธนาคารกลางจีน ได้ระงับการดำเนินการทางตลาด (OMO) ในวันนี้ ซึ่งทำให้การระบายสภาพคล่องรายสัปดาห์มี
จำนวนสูงที่สุดในรอบ 4 เดือนครึ่ง โดยได้ระบุถึงการระงับดำเนินการ OMO ดังกล่าวว่า เป็นผลจากการที่สภาพคล่องในระบบ
ธนาคารอยู่ในระดับสูงพอที่จะดูดซับผลกระทบจากการขายพันธบัตรรัฐบาลและสัญญา reverse repo ที่ครบกำหนดไถ่ถอนได้ โดยใน
วันนี้มี reverse repo ที่ครบกำหนดไถ่ถอน 1.10 แสนล้านหยวน
  • นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโรคโควิด-
19 ระบาดได้ภายในปี 2565 เนื่องจากการเดินทางโดยยานพาหนะส่วนตัวจะเพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคจะเพิ่มขึ้น
ด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ