ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.16 อ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้าตามภูมิภาค กังวลความขัดแย้งจีน-สหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 7, 2020 17:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.16 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 31.12 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.08-31.22 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาคหลังดอลลาร์แข็งค่าจากความกังวลเรื่องความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เซ็นคำสั่งแบน"TikTok-Wechat"นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับทิศทางค่าเงินบาทวันจันทร์ ประเมินกรอบไว้ระหว่าง 31.05-31.25 บาท/ดอลลาร์ ตลาดยังดูความคืบหน้าเกี่ยว กับมาตรการการคลังของสหรัฐฯ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.645 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 105.54 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.18165 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1868 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,324.40 จุด ลดลง 8.82 จุด, -0.66% มูลค่าการซื้อขาย 44,367.02 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,052.80 ลบ.(SET+MAI)
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.
63 อยู่ที่ 50.1 จาก 49.2 ในเดือนมิ.ย.63 โดยดัชนีฯ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หลังจากมีการการผ่อนคลายมาตรการล็อก
ดาวน์กิจการเพิ่มเติม ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 42.6 จาก 41.4 ในเดือนมิ.ย. 63
  • ที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แสดงความเห็นถึงทีมเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาลว่า
ในการทำงานของรัฐบาลภายใต้การตัดสินใจต่างๆ จะมาจากการเสนอแนวคิดจากทั้งส่วนราชการ ภาคการเมือง และภาคเอกชน แต่สิ่ง
สำคัญที่สุด อยู่ที่ข้อมูลที่ถูกต้องในการใช้ตัดสินใจ
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยถึงภารกิจสำคัญเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุด
ใหม่ คือ การตั้งคณะทำงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ เหมือนคณะทำงานแก้ปัญหาโควิด-19 ที่รัฐบาลดำเนิน
การได้ผลดีในปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลควรรีบตั้งคณะทำงานดังกล่าวอย่างรวดเร็ว เพราะมี ครม. ใหม่แล้ว การเมืองนิ่งแล้ว คณะทำงานนี้จะ
เสนอมาตรการในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ทันที ไม่ต้องกระจายเป็นมาตรการย่อยแล้วค่อย ๆ เสนอขึ้นมาเหมือนใน
อดีต
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีห้ามไม่ให้บุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัทไบต์
แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่และเจ้าของ ติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันแชร์คลิปวิดีโอชื่อดังสัญชาติจีน โดยให้มีผลบังคับใช้ใน
อีก 45 วัน
  • คณะทำงานที่ประกอบด้วยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายเจย์ เคลย์ตัน ประธานคณะกรรมการกำกับหลัก
ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้เสนอให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิกถอนบริษัทจีนออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ
หากบริษัทเหล่านั้นไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการตรวจสอบบัญชีของสหรัฐได้ภายในเดือนม.ค. 2565
  • ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เปิดเผยว่า การเจรจาร่วมกับคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับ
มาตรการเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 รอบใหม่นั้น มีความคืบหน้าบางส่วน และดำเนินไปในทางบวก อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังคง
ขัดแย้งกันอย่างมากในประเด็นสำคัญๆ เช่น การต่ออายุโครงการเงินช่วยเหลือคนว่างงาน
  • คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ตัดสินใจในวันนี้ที่จะใช้เงิน 1.13 ล้านล้านเยน (1.07 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ) จากกองทุนสำรองของ
ญี่ปุ่นเพื่อดำเนินมาตรการชดเชยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
  • ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โลกที่แตกแยกไม่สามารถเอาชนะการระบาดใหญ่ของโควิด-19

ได้ และหวังว่าสหรัฐจะทบทวนจุดยืนอีกครั้งกรณีตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของ WHO


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ