ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.12 แข็งค่า หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯกดดอลล์อ่อน-จับตาชุมนุมการเมือง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 18, 2020 09:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.12 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.17/22 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ ออกมาแย่กว่าที่คาดไว้แม้จะไม่มาก แต่เป็นการตอกย้ำการส่งสัญญาณของเฟดเกี่ยวกับการตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำออกไปอีกนาน

"บาทแข็งค่าตามภูมิภาคหลังดอลลาร์อ่อนค่า แต่ช่วงบ่ายคาดตลาดชะลอการลงทุนเพื่อดูทิศทางการเมืองในประเทศเกี่ยวกับ การชุมนุมทางการเมือง" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (17 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.28884% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.33625%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 104.78 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 104.51/94 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1853 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1778/1822 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1950 บาท/ดอลลาร์
  • โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปีนี้ ส.อ.ท.ยังคงเป้าหมาย
การผลิตรถยนต์ จำนวน 1.4 ล้านคัน แบ่งเป็น การผลิตเพื่อขายในประเทศ 7 แสนคัน และการผลิตเพื่อส่งออก 7 แสนคัน เนื่องจากเห็น
สัญญาณฟื้นตัวยอดขายรถยนต์ในประเทศ โดยเฉพาะเดือนสิงหาคม หลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์เพิ่มขึ้น
  • คลังเร่งสรุปมาตรการ "คนละครึ่ง" เสนอ ครม.สัปดาห์หน้าเตรียมเปิดให้เริ่มลงทะเบียน www.คนละครึ่ง.com วันที่
16 ต.ค.นี้ ใช้เงินได้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.เป็นต้นไป เร่งเปิดลงทะเบียนร้านค้ารายย่อยเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ 1 ต.ค.นี้ ส่วนร้าน
ค้าเดิม 180,000 ร้านที่ร่วมโครงการชิมช้อปใช้อยู่แล้วไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า โครงการ "คนละครึ่ง" วงเงิน 30,000 ล้านบาท
และ มาตรการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่ม 500 บาท จะมีเม็ดเงินรวม 150,000-200,000 ล้านบาท ช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวม
ในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 4 ติดลบน้อยลง 2-3% และจะค่อยๆฟื้นตัวเป็นบวกได้ ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปีหน้า มาอยู่ที่ 0-2% และหากมี
การนำมาตรการชิม ช้อป ใช้ จะยิ่งทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
  • นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสรรหาบุคคลมารับตำแหน่งรมว.คลังคนใหม่ว่า จะมีความ
ชัดเจนภายในเดือนต.ค.นี้
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และส่งสัญญาณพร้อม
ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ หากมีความจำเป็น
  • คณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.1% พร้อมกับคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทน
พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0% นอกจากนี้ BOJ ยืนยันว่าจะยังคงดำเนินมาตรการจัดสรรเงินกู้ให้กับบริษัทเอกชนที่ได้รับผล
กระทบ
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินว่า BOJ จะไม่ลังเลในการดำเนิน
นโยบายผ่อนคลายเพิ่มเติมหากจำเป็น พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องปรับเป้าหมายเงินเฟ้อซึ่งกำหนดไว้ที่ระดับ 2%
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 860,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแม้ว่า
ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 875,000 ราย แต่นักลงทุนมองว่าจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานยังอยู่ในระดับที่
สูง
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.)
หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรง
กดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ไม่ได้เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แม้คณะกรรมการเฟดส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ
ต่ำต่อไปอีก 3 ปีก็ตาม
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้คือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และ
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ