ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดตลาด 30.32 ผันผวนหลังธปท.ออกมาตรการดูแล คาดสัปดาห์หน้า 30.20-30.35

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 20, 2020 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.32 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 30.38 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.27-30.41 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทค่อนข้างผันผวน โดยหลัง ธปท.ประกาศมาตรการดูแลค่าเงินออกมา เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า ก่อนจะอ่อน ค่าลงมาเล็กน้อย เนื่องจากมีแรงซื้อคืนดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว

โดยสัปดาห์หน้า ปัจจัยที่ตลาดจับตาดูเป็นเรื่องทิศทางของเงินทุนต่างประเทศ เนื่องจากมาตรการของ ธปท.ที่ประกาศ ออกมาจะมีขั้นตอนดำเนินการ โดยจะทยอยมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ ยังจับตาสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง หากมีความตึงเครียด หรือเกิดเหตุรุนแรงจะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าได้

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในต้นสัปดาห์หน้าไว้ที่ 30.20-30.35 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 103.79 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 103.83 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1850 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1871 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,389.34 จุด เพิ่มขึ้น 19.92 จุด, +1.45% มูลค่าการซื้อขาย 90,540.43 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,387.50 ล้านบาท (SET+MAI)
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการลดแรงกดดันต่าค่าเงินบาท และแก้ปัญหาโครงสร้างตลาดอัตรา
แลกเปลี่ยน ได้แก่ 1.เปิดให้คนไทยฝากเงินตราต่างประเทศได้เสรี และโอนเงินระหว่างบัญชี FCD ของคนไทยได้เสรี 2.ปรับ
กฎเกณฑ์และกระบวนการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ทั้งในมิติของวงเงินและผลิตภัณฑ์ที่ลงทุนได้ และ 3.การลงทะเบียนแสดงตัว
ตนเพื่อซื้อขายตราสารหนี้
  • ธปท. ยอมรับในปัจจุบันค่าเงินบาทมีความผันผวน แต่เป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกค่อนข้างมาก โดยเฉพาะความเชื่อ
มั่นที่มีมากขึ้นจากสถานการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ รวมถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด แต่
มองว่าเงินทุนที่เข้ามาในตลาดของไทยขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการเข้ามาอย่างผิดปกติ และย้ำว่า ธปท.ได้เข้าดูแลตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มีความผันผวนเกินไปจนอาจกลายเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยที่ยังมีความเปราะบางอยู่
ในขณะนี้
  • ธปท.รายงานตัวเลขเงินสำรองระหว่างประเทศ วันที่ 13 พ.ย.63 อยู่ที่ 252.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่
6 พ.ย.63 อยู่ที่ 251.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 13 พ.ย.63 อยู่ที่ 25.9 พันล้านดอลลาร์
สหรัฐ เทียบกับวันที่ 6 พ.ย.63 อยู่ที่ 25.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 13 พ.
ย.63 อยู่ที่ 7,636.2 พันล้านบาท จาก 7,722.8 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 6 พ.ย.63
  • นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทโนมูระ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวช้าที่สุดในบรรดาประเทศกลุ่ม
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) อันเนื่องมาจากผลกระทบจากเหตุการณ์ประท้วงทางการเมืองในประเทศ และการแพร่ระบาด
ของโรคโควิด-19
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% ใน
วันนี้ และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65% โดยธนาคารกลางจีนได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยทั้งสองประเภทติดต่อ
กันเป็นเดือนที่ 7 แล้ว
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ รายงานยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 1.2% ในเดือน ต.ค.เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งเป็น

การเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่งขึ้นทั่วประเทศก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ