นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.82/83 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดระดับ 30.68 บาท/ดอลลาร์
ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนค่า โดยมีปัจจัยหลักมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ(Bond yield) ยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งช่วงนี้คงต้องติดตามทิศทางของ Bond Yield อย่างต่อเนื่อง เพราะถ้ายังพุ่งต่อ ก็จะมีผลให้บาทอ่อน ค่าได้อีก
"ถ้า Bond yield ยังสูงเรื่อยๆ เงินบาทก็มีโอกาสจะอ่อนค่าได้ต่อ...พรุ่งนี้เงินบาทอาจจะผันผวน และย่อตัวได้บ้าง" นัก
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.60 - 31.00 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.00/01 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.04 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1944/1945 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1968 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,568.82 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 81,008 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 756.67 ลบ.(SET+MAI)
- ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนก.พ.64 อยู่ที่ระดับ 29.6 ลดลงจากเดือนม.ค.64 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 29.8 เป็นผลจาก
- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ.64 อยู่ที่ระดับ 85.1 เพิ่มขึ้นจากระดับ 83.5 ในเดือนม.ค.64 โดยค่า
- ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2564 จะขยายตัว
- เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) แสดงความเชื่อมั่นว่า การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ จะไม่ส่งผล
- ธนาคารกลางอินโดนีเซีย มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ แม้ค่าเงินรูเปียห์เผชิญกับแรงกดดันเนื่องจากมี
- ธนาคารกลางจีน ได้อัดฉีดเงิน 1 หมื่นล้านหยวน (1.54 พันล้านดอลลาร์) ผ่านทางข้อตกลง reverse repos ประเภท
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของต่างประเทศที่ต้องติดตามในคืนนี้ และพรุ่งนี้ เช่น การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE),
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ, ญี่ปุ่นรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)