ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.82 ระหว่างวันผันผวน สัปดาห์หน้าจับตาบอนด์ยีลด์สหรัฐ-การประชุมกนง.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 19, 2021 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.82 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 30.95 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก และแรงเทขายดอลลาร์จากผู้ส่งออก ระหว่างวันเงิน บาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.78-30.99 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทค่อนข้างผันผวน หลังจากอ่อนค่าไปแตะ 30.99 บาท/ดอลลาร์ ก็มีแรงเทขายดอลลาร์จากผู้ส่งออกต่อเนื่อง และปิด ตลาดที่ระดับใกล้เคียงกับเมื่อวาน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 30.75-30.90 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยต่าง ประเทศที่สำคัญยังเป็นเรื่องบอนด์ยีลด์ ส่วนปัจจัยในประเทศกลางสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.85 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 109.04 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1892 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1906 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,563.96 จุด ลดลง 4.86 จุด, -0.31% มูลค่าการซื้อขาย 88,717.86 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,911.81 ล้านบาท(SET+MAI)
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจงแนวนโยบายกำกับดูแลคริปโทเคอร์เรนซี ประเภท Stablecoins เพื่อสร้าง
ความชัดเจนในการกำกับดูแลคริปโทเคอร์เรนซี หลังจากที่มีกระแสข่าวว่ามีการออก Stablecoin ชนิดหนึ่ง ชื่อ THT บน Terra
Platform ที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งระบุให้ 1 หน่วยของมูลค่า THT เป็น 1 บาท ซึ่งการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว มีความผิดตาม
มาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ. 2501 เพราะจะทำให้เกิดการใช้เงินบาทอีกระบบ แม้จะยังไม่ได้มีการนำมาใช้ แต่ก็มีเจตนา
ชัดเจนที่จะนำมาใช้ทดแทนเงินบาท ดังนั้นถ้ามีการใช้เป็นวงกว้าง จะเกิดความเสี่ยงต่อระบบการเงิน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่
เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินตัวเลขการส่งออกของไทยในปีนี้จะกลับมาเติบโตได้ 4.5% หรือในกรอบประมาณการที่ 3.5-
5.5% แม้ล่าสุดเดือน ม.ค.64 การส่งออกจะเติบโตเพียง 0.3% แต่เมื่อหักทองคำออกยังคงขยายตัวในระดับสูงที่ 6.3% สะท้อนภาพบวก
ของการฟื้นตัวของตลาดคู่ค้าไทยในปีนี้ สอดคล้องกับที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2564
เป็นขยาย 5.5% (จากเดิม 5.2%) โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ได้แรงส่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จนขยับคาดการณ์เป็น
5.1% (จาก 3.1%) รวมทั้งการกลับมาเร่งตัวของเศรษฐกิจจีน คาดว่าเติบโตอย่างโดดเด่น 8.1% ตลอดจนแผนการกระจายวัคซีนโควิด-
19 ในฝั่งยุโรป ล้วนปลดล็อคข้อจำกัดทางเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง
  • ศบค.เห็นชอบขยายระยะเวลาการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นครั้งที่ 11 ในทุกท้องที่ทั่วราช
อาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 31 พ.ค.64 รวมระยะเวลา 2 เดือน รวมทั้งผ่อนคลายมาตรการในการปรับระดับพื้นที่การแบ่งโซนสี
ตามสถานการณ์ โดยยกเลิกพื้นที่โซนสีแดงทั้งหมด ซึ่งทำให้ทั้งประเทศเหลือเพียงพื้นที่สีส้ม สีเหลือง และสีเขียว

นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแผนการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการลดระยะเวลา กักกันบุคคล ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร สาหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน (ลดระยะเวลากักกันผู้เดินทาง โดยทั่วไป) จาก 14 วัน เหลือ 10 วัน

  • คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ
10 ปีไว้ที่ระดับราว 0% โดย BOJ ระบุว่า ภายใต้กรอบนโยบาย "การควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve Control)" นั้น
BOJ สามารถอดทนต่อการที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวมีความผันผวนมากขึ้น
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัว
จากผลกระทบของโรคโควิด-19 และคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงอยู่ในทิศทางการฟื้นตัวต่อไป เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดเริ่มลด
น้อยลง
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่ธนาคารเพื่อการ
ชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ในวันจันทร์ที่ 22 มี.ค.นี้ในหัวข้อนวัตกรรมในยุคดิจิทัล

ส่วนในวันอังคารที่ 23 มี.ค. นายพาวเวลจะแถลงต่อคณะกรรรมาธิการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และ ในวันพุธที่ 24 มี.ค. นายพาวเวลจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาในหัวข้อ "กฎหมายช่วยเหลือและเยียวยาผล กระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 (Coronavirus Aid, Relief, and Economic Security Act หรือ CARES)"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ