BAY คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 32.50-32.95 ลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ,จับตาเฟด-กนง.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 13, 2021 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.95 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 32.64 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 32.33-32.85 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่าจะชะลอการซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการฉุกเฉิน Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ในไตรมาสหน้า โดย PEPP จะดำเนินต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมี.ค. 65

ส่วนการซื้อพันธบัตรในโครงการ Asset Purchase Programme (APP) จะยังอยู่ที่ 2 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ทางด้านประธาน ECB ใช้วลี The lady isn?t tapering โดยใช้คำว่าปรับ (Recalibration) อัตราการซื้อแทนคำว่า Taper ทั้งนี้ ECB เพิ่มคาดการณ์จีดีพีปีนี้เป็น 5% จาก 4.6% และเพิ่มประมาณการเงินเฟ้อเป็น 2.2% ในปีนี้ ก่อนจะลดลงสู่ 1.7% และ 1.5% ในปี 65 และ 66 ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของ ECB โดยทักษะการสื่อสารคุมโทนดังกล่าวช่วยจำกัดความผันผวนของค่าเงินยูโร ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 4,001 ล้านบาท แต่ขายพันธบัตร 8,117 ล้านบาท

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อ และยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ของสหรัฐฯ หลังดัชนีราคาผู้ผลิตเมื่อเทียบเป็นรายปีเร่งตัวขึ้นถึง 8.3% ในเดือนส.ค. ซึ่งสูงที่สุดในรอบเกือบ 11 ปี สะท้อนว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไปท่ามกลางปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ตึงตัวและอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดเมือง

ทั้งนี้กรุงศรีมองว่าภาวะดังกล่าวอาจสร้างความท้าทายให้กับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และตลาดการเงินโลกในระยะถัดไปหากเงินเฟ้อไม่ใช่ปรากฏการณ์ชั่วคราวอย่างที่เฟดตั้งสมมติฐานไว้ โดยมีความเสี่ยงที่ค่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวสูงขึ้นและสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่เผชิญแรงกดดันกรณีตลาดปรับมุมมองว่าเฟดจะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ในขณะเดียวกันทางฝั่งยุโรปจะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามหากราคาสินทรัพย์เสี่ยงทรุดลงและดัชนีความผันผวนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ค่าเงินเยนจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการแหล่งพักเงินที่ปลอดภัย

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ตลาดจะยังคงติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดหลังคลายล็อกบางส่วนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 64 ซึ่งการกระจายวัคซีนมีสัญญาณดีขึ้น รวมถึงประเด็นทางการเมือง อนึ่งกรุงศรีมองว่าปัจจัยต่างๆ ในตลาดโลก เช่นราคาทองคำ และน้ำมันดิบจะเริ่มกลับมามีน้ำหนักมากขึ้นสำหรับค่าเงินบาทควบคู่กับปัจจัยภายใน โดยนักลงทุนอาจเพิ่มความระมัดระวังก่อนการประชุมเฟดวันที่ 21-22 ก.ย. 64 และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 29 ก.ย. 64


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ