ซิตี้กรุ๊ปคาดว่า สถานที่ตั้งอาคารสำนักงานในสิงคโปร์จะมีจำนวนมากเกินความต้องการตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้น โดยมีอัตราเฉลี่ยที่ 3.2 ล้านตารางฟุตของที่ตั้งสำนักงานใหม่ต่อปีในตลาด เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติความต้องการโดยเฉลี่ยที่ 1.5 ล้านตารางฟุตต่อปี ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนอาคารสำนักงานจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากรัฐบาลสิงคโปร์จะเปิดประมูลที่ดินช่วงครึ่งแรกของปีหน้ามากกว่านี้ สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า เวนดี้ โคห์ นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป กล่าวว่า จากพื้นฐานการประเมินของเราพบว่า อัตราการใช้งานอาคารสำนักงานมีแนวโน้มว่าจะอยู่ในระดับสูงสุดในปี 2551-2552 และปรับตัวลงหลังจากนั้น ทั้งนี้แม้ว่าอัตราการเช่าอาคารสำนักงานจะยังคงแข็งแกร่งขึ้นในปีหน้า แนวโน้มการขยายตัวก็ยังมีข้อจำกัด เนื่องจากนักลงทุนต้องการให้เพดานอัตราการเช่าอาคารสำนักงานสูงขึ้นกว่านี้ เพื่อนำมาชดเชยกับความเสี่ยงด้านความต้องการ อุปทานที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนด้านเงินทุนที่สูงขึ้นในช่วงที่วิกฤติซับไพรม์ ซิตี้กรุ๊ปได้ลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นบริษัท เคปเพล แลนด์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลงสู่อันดับ "sell" จากเดิมที่ "hold" พร้อมกับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 6.26 ดอลลาร์สิงคโปร์ จากเดิมที่ 8.97 ดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่มากขึ้นในภาคธุรกิจอาคารสำนักงาน โคห์กล่าวว่า เคปเพล แลนด์เป็นหุ้นที่เปราะบางที่สุดหากมูลค่าสำนักงานปรับตัวลง โดยมูลค่าสำนักงานที่ลดลงทุก 10% จะหมายความถึงมูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่ตกลง 6% นอกจากนี้ คาดว่าเคปเพล แลนด์ จะต้องเผชิญการแข่งขันด้านการทำตลาดเช่าสำนักงานที่ศูนย์กลางการเงินมารีน่า เบย์ และศูนย์กลางการเงินวัน ไฟแนนเชียลในย่านธุรกิจใจกลางเมือง ซึ่งจะมีสำนักงานใหม่ๆให้เช่าประมาณ 75%