อนุสรณ์ คาดไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ-ตลาดการเงินไทยจำกัด

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday November 28, 2021 14:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม. รังสิต กล่าวถึง ความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งตัวลงอย่างรุนแรง ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ทรุดตัวลงอย่างมากเช่นเดียวกัน เป็นผลจากความวิตกกังวลการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน อาจส่งผลต่อการแพร่ระบาดเช่นเดียวกับสายพันธุ์เดลตา ซึ่งอาจทำให้หลายประเทศเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่อีกระลอกหนึ่ง ส่งผลต่อการเดินทางระหว่างประเทศ การท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆที่ต้องหยุดชะงักครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

การระบาดระลอกใหม่ทำให้การกระเตื้องและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกและไทยอาจไม่เกิดขึ้นอย่างที่คาดไว้เดิม ในเบื้องต้นคาดว่า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดการเงินไทยอย่างจำกัด ในระยะแรกหากทางการไทยสามารถควบคุมไม่ให้เข้ามาระบาดในประเทศได้และองค์การอนามัยโลกและประเทศต่างๆได้ร่วมมือกันในการจำกัดการแพร่ระบาดไวรัสสายพันธุ์ให้ให้อยู่ในเฉพาะ 6 ประเทศในแอฟริกา

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หากการกลายพันธุ์นี้ทำให้ไวรัสสามารถเอาชนะวัคซีนป้องกันการติดเชื้อที่เรามีอยู่ขณะนี้ทั้งหมดได้ นั่นอาจหมายถึง ความหายนะทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงทางด้านสุขภาพในระดับสูงสุด และ ระบบการป้องกันการแพร่ระบาดในหลายประเทศต้องพังทะลายลงทันทีหากปล่อยให้มีการติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ในประเทศ หากสามารถป้องกันไม่ให้สายพันธุ์ระบาดในประเทศไทยได้มีผลกระทบมีจำกัดมาก เพราะไทยมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าการลงทุนกับประเทศในแถบแอฟริกาใต้ 8 ประเทศน้อยมาก

8 ประเทศที่มีการแพร่ระบาดสายพันธุ์ใหม่ ประกอบไปด้วย ประเทศแอฟริกาใต้ นามิเบีย บอตสวานา ซิมบับเว เลโซโท เอสวาตีนี โมซัมบิกและมาลาวี ผลกระทบต่อไทยและภูมิเอเชียยังค่อนข้างจำกัดในระยะนี้ ประเทศแอฟริกาใต้ที่เป็นประเทศคู่ค้าหลักของไทยในทวีปแอฟริกาก็มีมูลค่าการค้าโดยรวมเฉลี่ยประมาณ สองพันหกร้อยกว่าล้านดอลลาร์เท่านั้น จำนวนนักท่องเที่ยวและการเดินทางระหว่างกันก็ไม่มากนัก ผลกระทบต่อภาคส่งออกและภาคท่องเที่ยวของไทยโดยตรงมีจำกัดแต่จะกระทบตลาดการเงินจากความวิตกกังวลอันเป็นผลกระทบทางจิตวิทยาการลงทุนและผลกระทบจากการห้ามเดินทางที่ต้องการป้องกันไม่ให้สายพันธุ์ใหม่ "โอไมครอน" กลายพันธุ์ในแอฟริกาแพร่ระบาดไปยังส่วนอื่น ๆ ของโลกเหมือน "เดลตา" จากการกลายพันธุ์ในอินเดีย

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า หากสำรวจดูพบว่า การค้าระหว่างไทยกับประเทศในทวีปแอฟริกาในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2559-2563) มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 9,861 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 0.50% ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย ประเทศไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ามาตลอด โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปแอฟริกา เช่น ข้าว รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก การแพร่ระบาดระบาดระลอกใหม่ด้วยไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาจะไม่มีผลต่อสินค้าส่งออกเกษตรของไทยไปแอฟริกามากนัก แต่จะมีผลต่อสินค้าอุตสาหกรรมและรถยนต์มากกว่า

ประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของไทยในภูมิภาคแอฟริกาที่มีรายงานของการติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ คือ แอฟริกาใต้ (ร้อยละ 27.59 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทยกับทวีปแอฟริกา) อียิปต์ (ร้อยละ 9.45) ศูนย์กลางการแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้อยู่ที่ประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งมีประชากรได้รับวัคซีนครบโดสเพียง 24% เท่านั้น ขณะนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่เพียง 77 คนเท่านั้นแต่ตัวเลขนี้อาจไม่สะท้อนสถานการณ์แท้จริงเพราะระบบสาธารณสุขในแอฟริกาล้าหลัง หากทุกประเทศดำเนินการตามมาตรฐานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดย่อมป้องกันการแพร่ระบาดไม่กระจายไปทั่วโลกเหมือนสายพันธุ์เดลตา

ในอีกด้านหนึ่งก็มีข่าวดีว่า บริษัทไฟเซอร์ บริษัทไบโอเทค บริษัทโนวาแว็กซ์ และ บริษัทผลิตวัคซีนหลายแห่งได้เริ่มต้นในการวิจัยวัคซีนสูตรใหม่เพื่อเตรียมรับมือกับสายพันธุ์ใหม่"โอไมครอน" วัคซีนตัวใหม่พร้อมสำหรับการทดสอบและผลิตได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า คาดว่าแรงกดดันเงินเฟ้อจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันน่าจะลดลงในช่วงนี้ รวมทั้งอาจไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ ประเทศสำคัญๆได้ประกาศห้ามการเดินทางจากแถบประเทศแอฟริกาใต้ 6-8 ประเทศในทันที ปัจจัยเหล่านี้น่าจะลดความตื่นตระหนกของนักลงทุนในตลาดการเงินได้ระดับหนึ่ง เพราะการแพร่ระบาดอาจถูกจำกัดวงอยู่ในเฉพาะกลุ่มประเทศในแอฟริกาใต้เท่านั้น และประเทศเหล่านี้หลายประเทศก็มีระดับการเปิดประเทศต่ำมาก ยกเว้นประเทศแอฟริกาใต้ ปัจจัยเชิงบวกอีกประการหนึ่ง ก็คือ มีการเลือกตั้งการปกครองส่วนท้องถิ่นและ อบต. ในวันที่ 28 พ.ย. นี้หลังจากมีการแช่แข็งการเลือกตั้งท้องถิ่นมา 8 ปี เมื่อมีอบต. ที่มาจากการเลือกตั้งแล้วการแก้ปัญหาในระดับพื้นที่จะดีขึ้น ฉับไวขึ้น ตอบสนองต่อประชาชนมากขึ้น และต้องมีการกระจายอำนาจทางการคลังเพื่อให้ท้องถิ่นมีงบประมาณมากพอที่จะดูแลประชาชนในพื้นที่ต่างๆได้

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะยังขยายตัวเป็นบวกได้ในปีนี้โดยอาจขยายตัวต่ำกว่า 0.5% และ การท่องเที่ยวในช่วงปลายปีอาจไม่คึกคักอย่างที่คาด ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนตลาดหุ้นในช่วงต้นสัปดาห์น่าจะมีการกระเตื้องขึ้นบ้างหลังจากดิ่งลงแรงในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลง -2.3% เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นเยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษ ปรับตัวลงกว่า 4% ตลาดหุ้นสหรัฐฯลงกว่า 2.5% โดยภาพรวมแล้ว ตลาดหุ้นเอเชียตอบสนองในทางลบต่อข่าวไวรัสกลายพันธุ์น้อยกว่าภูมิภาคอื่นๆ เงินทุนจำนวนมากจะยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชีย และบางส่วนโยกมาลงทุนในตลาดทองคำ และ ตลาดพันธบัตรและตราสารหนี้มากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง ตลาดการเงินโลกจะยังผันผวนรุนแรงในลักษณะเป็นขาลงไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่ ตลาดพันธบัตรและราคาทองคำในช่วงนี้จะเป็นขาขึ้น

ส่วนภาคเศรษฐกิจจริงและเศรษฐกิจโลกโดยรวมยังไม่กระทบอะไรมากจนกว่าจะมีประเทศสำคัญ ๆ ทางเศรษฐกิจประกาศล็อกดาวน์เพิ่มเติม ประกาศสาธารณสุขห้ามไม่ให้ผู้เดินทางจาก 8 ประเทศในแอฟริกาเข้าไทยเป็นการตัดสินใจถูกต้องและทันต่อสถานการณ์ แต่ควรมีการดำเนินการมาตรฐานสาธารณสุขเข้มงวดเสริมขึ้นอีกสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ เพื่อลดโอกาสการนำเข้าเชื้อสายพันธุ์ใหม่โอไมครอนจากชาวต่างชาติ

นอกจากนี้ยังไม่มีผลการศึกษาชัดเจนว่า วัคซีนที่มีอยู่สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ได้ หากเกิดการระบาดในประเทศรอบใหม่จะกระทบต่อชีวิตประชาชนและเศรษฐกิจมากกว่าระลอกสาม หากทั่วโลกห้ามผู้เดินทางจาก 8 ประเทศอย่างเท่าทันต่อสถานการณ์และทำพร้อมๆกันโอกาสที่เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลกแบบสายพันธุ์เดลตาย่อมมีความเป็นไปได้น้อยมาก ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและไทยย่อมอยู่ในวงจำกัด

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า มีความจำเป็นในการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อดูแลเศรษฐกิจด้วยมาตรทางการคลังเพิ่มขึ้น เพราะการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวอาจล่าช้าออกไป การเดินทางระหว่างประเทศและการเปิดประเทศอาจมีอุปสรรคจากการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แต่ไม่เห็นด้วยกับการขยายเพดานหนี้จาก 30% เป็น 35% ในงบประมาณรายปีเพื่อนำไปจ่ายประกันรายได้ชาวนา เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อฐานะทางการคลังได้ในระยะต่อไป ขอให้ใช้วิธีตัดลดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็นออกโดยเฉพาะจากงบประจำ นำไปจ่ายโครงการประกันรายได้เกษตรกรแทน และขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายประกันรายได้ที่อาจสร้างภาระทางการคลังแบบไม่มีเพดานได้หากราคาข้าวในตลาดยังคงปรับตัวลดลงจนรัฐบาลต้องจ่ายส่วนต่างจำนวนมาก รัฐบาลอาจต้องกำหนดเพดานว่าจ่ายได้เต็มที่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับสัดส่วนงบประมาณเนื่องจากประเทศก็จำเป็นต้องนำเงินงบประมาณไปใช้ในส่วนอื่นๆด้วย โดยเฉพาะงบประมาณทางด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชนที่อาจจะจำเป็นเฉพาะหน้าเวลานี้

การจัดเตรียมวัคซีนให้เพียงพอสำหรับการระบาดระลอกใหม่และการลงทุนวิจัยวัคซีนและยารักษาโรคอุบัติใหม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติม การลงทุนทางด้านสุขภาพถือว่าเป็นเงื่อนไขจำเป็น (Necessary Condition) ต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและในระยะยาวแล้วเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญ การลงทุนทางด้านสุขภาพและและการลงทุนทางด้านการศึกษามีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด เพราะผู้ที่มีการศึกษาดีมักมีความโน้มเอียงในการดูแลสุขภาพตัวเองได้ดี เนื่องจากผู้มีความรู้มักจะรักษาสุขภาพและป้องกันการเจ็บป่วยได้ดีกว่า การลงทุนให้ประชาชนมีสุขภาพดีเป็นการลงทุนที่สำคัญเช่นเดียวกับการลงทุนทางการศึกษา การมีสุขภาพที่ดีของประชาชนจะเกี่ยวข้องกับ 4 กิจกรรมที่ต้องใช้เงินงบประมาณสนับสนุน ได้แก่ งานบริการสุขภาพ งานป้องกันโรค งานบริการส่งเสริมสุขภาพ งานฟื้นฟูสุขภาพ ขณะนี้ประเทศไทยยังขาดงานวิจัยศึกษาเกี่ยวกับผลตอบแทนของการมีสุขภาพดีที่มีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมที่สามารถวัดได้ในเชิงปริมาณ หากมีข้อมูลงานวิจัยยืนยันก็จะปัจจัยชี้ถึงความจำเป็นในการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมทางด้านสุขภาพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ