(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.39 แข็งค่าตามภูมิภาค คาดกรอบวันนี้ 33.30 - 33.55

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 9, 2021 11:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.39 บาท/ดอลลาร์ แข็ง ค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.50 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทแข็งค่า เป็นผลมาจากค่าเงินหยวนที่ธนาคารกลางของประเทศจีนเซ็ตให้เงินหยวนแข็งค่าลงมาค่อนข้าง มาก ซึ่งแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่ปี 61 ส่งผลให้เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคแข็งค่าตาม สำหรับปัจจัยในประเทศ หลังทั่วโลกเริ่ม คลายกังวลกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เรื่องการเปิดเมืองจึงมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30-33.55 บาท/ดอลลาร์ โดยพรุ่งนี้มีปัจจัยที่ต้อง ติดตาม คือ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ

THAI BAHT FIX 3M (8 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.10845% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.22841%

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 33.43250 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.77 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.51 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1335 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1284 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.512 บาท/
ดอลลาร์
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ธ.
ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังจากกความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิค
รอนเริ่มบรรเทาลง
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่
อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
  • บริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบออนเทค ออกแถลงการณ์ร่วมกันในวันนี้ ระบุว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคจำนวน
3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิด เผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบ
ว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.0 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 ทั้งนี้ ตัวเลข
JOLTS เป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่เฟดใช้ในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ย
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางขนาดใหญ่ 3 แห่งของโลกในสัปดาห์หน้า โดยธนาคาร

กลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมในวันที่ 14-15 ธ.ค. ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

จะจัดการประชุมพร้อมกันในวันที่ 16 ธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ