ภาวะตลาดเงินบาท: บาทปิด 36.07 อ่อนค่าสุดรอบ 6 ปีครึ่ง ตลาดปิดรับความเสี่ยงจากความกังวลศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 6, 2022 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 36.07 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า สุดในรอบ 6 ปีครึ่ง โดยอ่อนค่าต่อเนื่องจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 35.99 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวใน กรอบ 35.92 - 36.08 บาท/ดอลลาร์

เย็นนี้เงินบาทอ่อนค่าหลุดระดับ 36 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากตลาดปิดรับความเสี่ยง โดยยังคงกังวลเรื่องเศรษฐกิจถด ดถอยทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ด้านสกุลเงินภูมิภาคส่วนใหญ่อ่อนค่าเช่นเดียวกับบาท

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ ดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมของเดือน มิ.ย. 65

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.95 - 36.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 135.29 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 135.25 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0230 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0262 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,541.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 72,118 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,516.53 ลบ. (SET+MAI)
  • รมว.คลัง ระบุ การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า เป็นผลจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ทั้งจากค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินหยวน
ที่แข็งค่า ซึ่งได้กำชับให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ติดตามอย่างใกล้ชิด ในส่วนของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายมีเงินไหล
ออกจากตลาดตราสารหนี้บ้าง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนกระแสเงินทุนในตลาดทุนเป็นไปตาม
ภาวะตลาดหุ้นโลก
  • ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ระบุว่า หากรอบนี้ค่าเงินบาทอ่อนต่อเนื่องไปทะลุ 36.5 บาท/ดอลลาร์
จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 16 ปี ซึ่งต้องรอดูว่า ธปท. จะยอมปล่อยให้ค่าเงินบาทอ่อนได้อีกมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากจะ
เกิดผล 2 ทางเลือกระหว่าง 1. ผลดีจะเกิดกับภาคเกษตร ท่องเที่ยว และส่งออก กับ 2. ผลกระทบต่อต้นทุนราคาพลังงานและ
ปัญหาเงินเฟ้อที่สูงอยู่แล้ว
  • สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีก (RSI) มิ.ย.65 อยู่ที่ระดับ 48.9 ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือน
ที่ 3 สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ปรับตัวลดลง ส่งผลมาจากภาวะค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นซ้ำเติมกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยัง
อ่อนแอ ขณะที่ผู้ประกอบการไม่มีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ แม้ว่ามีแนวโน้มสัญญาณที่ดีในการออกไปทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นอกบ้านเพิ่มมากขึ้น แต่ความถี่ในการจับจ่ายกลับลดลง
  • ผลการสำรวจ FTI Poll "ภาคอุตสาหกรรม จะรับมือกับวิกฤตพลังงานแพงอย่างไร" ผู้บริหาร ส.อ.ท. มองว่า
จากวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ภาค
อุตสาหกรรมต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 20% สวนทางกับการปรับราคาขายสินค้าและบริการในช่วงที่ผ่านมา ที่ปรับ
เพิ่มขึ้นไม่ถึง 10% เนื่องจากต้องการรักษายอดขาย ขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการควบคุม
ราคาสินค้าของรัฐ
  • ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฏร ได้ข้อสรุปการกำหนดวันอภิปราย
ทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ในวันที่ 19-22 ก.ค. 65 โดยจะมีการลงมติในวันที่ 23 ก.
ค.65 ในเวลา 10.00 น.
  • คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่า การที่มูลค่าตลาดคริปโทเคอร์
เรนซึ่งทรุดตัวลงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงความเปราะบางของตลาดดังกล่าว และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี
การบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น
  • ผลสำรวจบริษัทชั้นนำ 900 แห่งทั่วโลก พบว่า หนี้สินสุทธิของบริษัทเอกชนทั่วโลกลดลง 1.9% แตะที่ระดับ 8.15
ล้านล้านดอลลาร์ในปี 64 เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นส่งผลให้ความต้องการระดมทุนใหม่ลดน้อยลง และจากการที่บริษัทเอกชนมี
เงินสดหมุนเวียนที่แข็งแกร่ง หลังจากธนาคารกลางใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเป็นเวลานานหลายปี ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ
สามารถชำระคืนหนี้สินคงค้างได้
  • ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า นับจนถึงวันที่ 2 ก.ค. 65 ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์
ย่อย BA.4 และ BA.5 กำลังแพร่ระบาดในสหรัฐในอัตราส่วนสูงถึง 70.1% ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ
  • สถาบันการเงินและการพัฒนาแห่งชาติ (NIFD) ของจีนเปิดเผยว่า หนี้สินของจีนมีแนวโน้มจะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
ในปีนี้ เนื่องจากธนาคารกลางจีนพยายามที่จะเพิ่มสินเชื่อ และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
  • นครเซี่ยงไฮ้ของจีน เริ่มดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนจำนวนมากอีกรอบ ซึ่งสร้างความกังวล

ว่าเซี่ยงไฮ้จะกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ