รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ลงนามข้อตกลงซื้อข้าวจำนวน 1.5 ล้านตันจากเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ในวันนี้ เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนอาหารที่อาจจะเกิดขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่างกันที่เขตการลงทุนคลาร์ก ฟรีพอร์ท โซน ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ในระหว่างการประชุมนอกรอบว่าด้วยการพัฒนาฟิลิปปปินส์ประจำปี 2551 เป็นเวลา 2 วัน หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์ เดลี่ อินไควเรอร์ รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายซู ซวน ตรอง ทูตเวียดนามประจำฟิลิปปินส์ว่า รัฐบาลเวียดนามจะพยายามจัดส่งข้าวให้กับฟิลิปปินส์อย่างเต็มที่ แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวในประเทศจะลดลงก็ตาม ข้อตกลงระหว่างฟิลิปปินส์และเวียดนามในครั้งนี้ระบุว่า รัฐบาลเวียดนามเห็นชอบที่จะจำหน่ายข้าวให้กับฟิลิปปินส์ เว้นแต่จะเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติและผลผลิตลดลง และฟิลิปปินส์จะต้องซื้อข้าวจากเวียดนามอย่างน้อย 1.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะเริ่มต้นในปีนี้ โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางการตลาดและการผลิต รวมถึงเงื่อนไขต่างๆภายใต้กฎหมายของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ บริษัท เวียดนาม เซาเทิร์น ฟู้ด คอร์ป และสำนักงานอาหารแห่งชาติฟิลิปปินส์ (NFA) เป็นหน่วยงานของรัฐเพียง 2 แห่งที่มีอำนาจในการกำหนดเงื่อนไขของบันทึกข้อตกลงดังกล่าวซึ่งจะมีผลต่อไปอีก 3 ปี อาร์เธอร์ ยัพ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยเพิ่มปริมาณข้าวในสต็อกและสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีอุปทานข้าวเพียงพอกับความต้องการของประชาชน "เราหวังว่าเวียดนามจะจัดส่งข้าวมาให้เราอย่างน้อยครึ่งหนึ่งภายในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศเริ่มขาดแคลนข้าว" เขากล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน