ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 38.09 ผันผวนในทิศทางอ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค จับตาเฟดนัดพิเศษ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 3, 2022 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 38.09 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 37.85 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 37.84 - 38.13 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทค่อนข้างผันผวนไปในทิศทางอ่อนค่า ตามตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดแรง เนื่องจากตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาด การเงินโลกตึงตัว หลังจากที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเข้าถือสกุลเงินดอลลาร์เป็นหลัก ด้านสกุลเงินภูมิภาค ส่วนใหญ่วันนี้อ่อนค่า ตลาดหุ้นภูมิภาคก็ปรับตัวลดลง

ส่วนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ไม่ใช่การประชุมนอกรอบ แต่ตลาดกังวลการประชุมแบบปิด (Closed Meeting) ว่าเฟดอาจจะมีมาตรการออกมา อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าการประชุมในครั้งนี้จะมีการบอกล่วงหน้าก่อนแล้ว แต่เนื่อง จากตลาดมีความกังวล จึงจำเป็นต้องติดตามการประชุมในคืนนี้ด้วย นอกจากนี้ ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือ ดัชนีภาคการผลิต เดือนก.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

"การประชุมเฟดในคืนนี้ได้มีการแจ้งไว้ก่อนซักพักแล้ว และช่วงประมาณเดือน 7-8 ก็มีการประชุมของในลักษณะนี้เกิดขึ้น แต่ เนื่องจากตอนนี้ตลาดอยู่ในภาวะกังวล กลัว พอมีข่าวลักษณะนี้ออกมาก็จะเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมาก่อน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 38.00 - 38.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 145.17 เยน/ดอลลาร์ (อ่อนค่าในรอบ 24 ปี) จากช่วงเช้าที่ระดับ 144.78 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9755 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 0.9824 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,558.05 จุด ลดลง 31.46 จุด (-1.98%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 82,448 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,471.60 ลบ. (SET+MAI)
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ย.65 อยู่ที่ 49.6 ทรงตัวอยู่ในระดับ
ใกล้เคียงกับเดือนส.ค. สะท้อนความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน โดยความเชื่อมั่นด้านการจ้างงานปรับเพิ่มขึ้นตาม
เศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว แต่ความเชื่อมั่นด้านต้นทุนลดลงและอยู่ในระดับต่ำ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นค่า
ไฟฟ้าผันแปร หรือค่า FT ขณะที่ดัชนีฯ ด้านอื่นค่อนข้างทรงตัว
  • ธปท.มีความเป็นห่วงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤติโควิด ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่กว่า 80% ของจีดีพี จากช่วงก่อนโควิดหนี้
ครัวเรือนอยู่ที่ระดับ 50% ของจีดีพี ทั้งนี้ จากการติดตามข้อมูลของ ธปท. พบว่า สัดส่วนหนี้ดังกล่าว 35% เป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ
บัตรเครดิต ไม่ใช่สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต ซึ่งได้วางแนวทางการแก้ไขหนี้ครัวเรือน ไว้ 3 แนวทาง
คือ 1.การแก้ไขหนี้ในปัจจุบัน หรือการลดหนี้ 2.การปล่อยสินเชื่อให้มีคุณภาพ และ 3.การให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน
  • ธนาคารกรุงไทย (KTB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระหว่าง 0.15% - 0.825% ต่อปี สำหรับเงินฝาก
ประจำ 24 เดือน และ 36 เดือน เพิ่มขึ้นสูงสุด 0.825% ต่อปี เป็น 1.20% ต่อปี เพื่อดูแลผู้ฝากเงินให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และส่งเสริม
การออมในระยะยาว เพื่อเสริมสร้างเงินออมที่มีความมั่นคง ในภาวะที่เศรษฐกิจยังเผชิญความท้าทายรอบด้าน
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำในอัตราสูงสุด 0.50% สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น ธนาคาร
ปรับขึ้นเฉพาะดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (Minimum Loan Rate) ในอัตรา 0.25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5.25% เป็น
5.50% และดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) ในอัตรา 0.25% จาก
ปัจจุบันอยู่ที่ 5.845% เป็น 6.095%
  • โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (Automotive and Tyre
Testing, Research and Innovation Center - ATTRIC) มีความคืบหน้าแล้วกว่าครึ่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ
เต็มรูปแบบปี 2569
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติตุรกีเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของตุรกีพุ่งแตะ 83.45% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็น
ระดับสูงสุดในรอบ 24 ปี หลังธนาคารกลางตุรกีประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาแม้เงินเฟ้อพุ่งสูง
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียเปิดเผยวันนี้ (3 ต.ค.) ว่า สกุลเงินริงกิตของมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำ
สุดนับตั้งแต่ปี 2541 นั้น ไม่ได้สะท้อนสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันของมาเลเซีย พร้อมยืนยันว่า เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ตลาดแรงงานกำลังไปได้สวย และระบบการเงินยังมั่นคง
  • นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่นประกาศในวันนี้ (3 ต.ค.) ว่าจะพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หลังทรุดตัวลง
อย่างหนักจากการบังคับใช้มาตรการปิดพรมแดนเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยตั้งเป้าหมายใหม่ว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายของนัก
ท่องเที่ยวต่างชาติเป็นกว่า 5 ล้านล้านเยน (3.5 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อปี
  • รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นพร้อมดำเนินการ "อย่างเด็ดขาด" ในตลาดปริวรรตเงินตรา หากค่าเงินเยนยัง
คงผันผวนรุนแรงต่อเนื่อง นับเป็นการส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนที่เทขายเงินเยน
  • เว็บไซต์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า คณะผู้ว่าการเฟดจะจัดการประชุมแบบปิด (Closed Meeting) ใน
เวลา 11.30 น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 22.30 น.ตามเวลาไทย โดยเป็นการประชุมที่จัดขึ้นแบบเร่งด่วนตามที่กำหนดไว้
ในมาตรการ 261b.7 ของระเบียบการประชุมสาธารณะของคณะผู้ว่าการเฟด ณ กรุงวอชิงตันดีซี และผ่านระบบทางไกล โดยกำหนดการ
คร่าว ๆ มีดังต่อไปนี้ คณะผู้ว่าการเฟดจะทบทวนและตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าและอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (Advance and
Discount Rate)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ