(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 36.04 อ่อนค่าตามภูมิภาค กังวลเหตุประท้วงโควิดในจีน-จับตาส่งออกไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 28, 2022 11:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.04 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อน ค่าจากปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 35.77 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค โดยช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน ประเทศจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับมีผู้ออกมาประท้วงเรื่องมาตรการ Zero Covid ส่งผลให้ Sentiment ในตลาดไม่ค่อยดี และสกุล เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.85 - 36.20 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยภายในประเทศที่ ต้องติดตามวันนี้ คือ กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า เดือนต.ค. ส่วนประเด็นต่างประเทศยังต้องติดตามสถานการณ์ผู้ติด เชื้อโควิดในจีน

THAI BAHT FIX 3M (25 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.33069% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.71561%

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 35.80000 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 138.85 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 139.36 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0341 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0392 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ระดับ 35.663 บาท/ดอลลาร์
  • หอการค้าไทยบุกยื่น "สมุดปกขาว" รัฐบาลกู้เศรษฐกิจไทย เร่งขีดความสามารถแข่งขัน ด้าน "สุพัฒนพงษ์" ปลุกภาค
เอกชนใช้ "บีซีจีโมเดล" แนวทางทำธุรกิจ ป้องกันตัวเองจากการกีดกันการค้า เพิ่มมูลค่าสินค้า ดูแลสิ่งแวดล้อม มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้น
จากวิกฤติเพื่อสิ่งที่ดีกว่าแน่ พร้อมลุยสร้างเสน่ห์ระเบียงเศรษฐกิจภูมิภาค ดึงดูดลงทุน
  • รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มปรับดอกเบี้ยเงินฝากกันเรื่อยๆ ดูได้จากแคม
เปญเงินฝากพิเศษออกใหม่ ทั้งของธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐมีมากกว่า 20 แคมเปญ โดยจูงใจด้วยดอกเบี้ยที่สูงเพิ่มกว่าเดิม
0.36-1% เมื่อเทียบกับช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้การฝากเงินทยอยเพิ่มมากขึ้น แม้ที่ผ่านมาจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากออม
ทรัพย์ 0.20% แค่เพียงธนาคารแห่งเดียวเท่านั้น แต่เงินฝากประจำประเภท 3-36 เดือนได้ปรับขึ้นตั้งแต่ 0.10-0.75% และยังมีแนวโน้ม
เพิ่มขึ้นตามดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้นตามดอกเบี้ยนโยบาย
  • ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ผ่านปีงบประมาณ 2566 ได้เพียงเดือนเศษ เพดานหนี้ตามมาตรา 28 ตาม พ.
ร.บ.วินัยการเงินการคลังของภาครัฐขณะนี้เหลือวงเงินเพียง 2% จากความสามารถก่อหนี้ภาครัฐต่อสัดส่วนงบประมาณ 35% ของงบราย
จ่าย ดังนั้น สำนักงบประมาณจึงทักท้วงการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ว่า โครงการประกันรายได้ชาวสวนยาง เฟส 4 วงเงิน
ประมาณ 1.66 แสนล้านบาท ไม่สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน ควรกลับไปคิดราคาอ้างอิงใหม่ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม-25 พฤศจิกายน
2565 แยกเป็นสถาบันในประเทศขายสุทธิ 156,108.92 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 1,621.35 ล้านบาท นัก
ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 181,653.84 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขายสุทธิ 23,923.58 ล้านบาท
  • เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนได้ลุกลามเป็นวงกว้างในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัว
กันบนท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และล็อก
ดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้น
ผิง ลาออกจากตำแหน่ง
  • คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยในวันนี้ (27 พ.ย.) ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ใน
วันเสาร์ (26 พ.ย.) อยู่ที่ 39,791 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 3,709 ราย และไม่แสดงอาการ 36,082 ราย
นับว่ายอดผู้ติดเชื้อรายใหม่แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่เป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว
  • อะโดบี อนาลิติกส์ ธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลในเครือบริษัทอะโดบี เปิดเผยในวันเสาร์ (26 พ.ย.) ว่า ยอดใช้จ่ายของผู้
บริโภคผ่านระบบออนไลน์ในวันแบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) ซึ่งเป็นเทศกาลชอปปิงของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบรายปี แตะ
ระดับ 9.12 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าจะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงก็ตาม
  • ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐในวันที่ 30 พ.ย.

รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันที่ 2 ธ.ค. และการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวัน

ที่ 13-14 ธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ