กกร.คงเป้า GDP ปีนี้ ประเมินศก.ไทยฟื้นตัวได้แต่ยังอ่อนแอ ส่งออก-ท่องเที่ยวยังแผ่ว

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 6, 2024 12:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประมาณการเศรษฐกิจไทย ปี 2567 โดยยังคงคาดว่าอัตราการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้จะอยู่ที่ 2.8-3.3% เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอจากหลายปัจจัย โดยการส่งออกยังฟื้นตัวได้ ช้า การท่องเที่ยวยังไม่กลับเข้าสู่ระดับเดิม และกำลังซื้อภายในประเทศถูกกดดันจากปัญหาหนี้ครัวเรือน และคาดอัตราเงินเฟ้อทั้งปี จะอยู่ ที่ 0.7-1.2%

ทั้งนี้ แม้ภาคการส่งออกจะมีแนวโน้มกลับมาขยายตัว แต่คาดว่าทั้งปีมูลค่าการส่งออกจะเติบโตในระดับต่ำที่ 2-3% อีกทั้ง ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกประเทศยังมีสูง ขณะที่อุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออก มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ในระดับต่ำ

สำหรับการท่องเที่ยวยังฟื้นตัวได้ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิดถึง 50% เนื่องจากชาวจีนหันไปท่อง เที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ ปัญหาหนี้สินและกำลังซื้อภายในประเทศที่มีแนวโน้มอ่อนแอ จะเป็นปัจจัยกดดันการบริโภคภาคครัว เรือนต่อไป

"ยอดส่งออกต้องให้ได้เกินเดือนละ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้นอกจากต้องการให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น เป็น 24-35 ล้านคนแล้ว เรายังต้องการเพิ่มยอดค่าใช้จ่ายจากคนละ 3-4 หมื่นบาท เป็น 4-5 หมื่นบาท รวมทั้งกระตุ้นให้คนไทยท่อง เที่ยวในประเทศมากขึ้นด้วย" นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธาน กกร. กล่าว

ด้านการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2 จากปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ปรับ เร็วขึ้น เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้ตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ซึ่งเป็นตัวช่วยประคองเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง และหนุนการลงทุนทั้ง ภาครัฐและภาคเอกชนในระยะข้างหน้า

สำหรับมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลที่กำลังจะสิ้นสุดลงนั้น ยังต้องการให้ขยายเวลาออกไปอีกสักระยะ เนื่องจากภาวะ เศรษฐกิจยังมีความเปราะบาง แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะมีแนวทางบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างไร ต้องดำเนินมาตรการให้เกิดสมดุล

กรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2567 ของ กกร.

          %YoY          ปี 66 (ณ ธ.ค.66)*        ปี 67 (ณ ก.พ.67)          ปี 67 (ณ มี.ค.67)
          GDP                1.9%                   2.8-3.3%                  2.8-3.3%
          ส่งออก             -1.7%                   2.0-3.0%                  2.0-3.0%
          เงินเฟ้อ             1.2%                   0.7-1.2%                  0.7-1.2%
หมายเหตุ: * ข้อมูลจริง

         นอกจากนี้ กกร.มีข้อเสนอแนะต่อการจัดทำ ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ... ที่ ครม. ได้มีมติรับ
หลักการไปแล้ว เพื่อให้กลไกการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศมีความยั่งยืน และครอบคลุมปัญหาในทุกมิติทั้งจากปัญหา PM2.5 การเผาในที่
โล่ง มลพิษจากภาคขนส่ง และมลพิษข้ามแดน ดังนี้
          1. เสนอให้มีผู้แทนภาคเอกชนจำนวน 4 ท่านเท่ากับภาคประชาชนเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในคณะกรรมการขับเคลื่อน 3 คณะ
ภายใต้ ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ประกอบด้วย 1) คณะกรรมการนโยบายอากาศสะอาด 2) คณะกรรมการบริหารจัดการเพื่ออากาศ
สะอาด 3) คณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด เพื่อให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืน
          2. บูรณาการการกำกับดูแล ด้านมาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาด ดัชนีคุณภาพอากาศ และมาตรฐานการควบคุมต่างๆ  เพื่อลด
ความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน
          3. ทบทวนการวางหลักประกันความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมในการขออนุญาตประกอบกิจการ โดยควรนำเอาระบบการซื้อ
ประกันภัยมาใช้ทดแทนในกรณีที่เกิดความเสียหาย รวมทั้งปรับบทลงโทษผู้กระทำความผิดให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรม
          4. ทบทวนการปรับปรุงเงื่อนไขและข้อจำกัดการใช้เงินกองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถนำงบประมาณมาใช้ในการแก้ไข
ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการกำหนดมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
          5. ศึกษาความเหมาะสมและรายละเอียดในร่าง พ.ร.บ. โดยเน้นกระบวนการการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
          รวมทั้งเสนอให้ภาครัฐต้องเข้มงวดเรื่องการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของผักและผลไม้ที่นำเข้ามาจำหน่ายภายใน
ประเทศไทย เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากในเดือนม.ค.มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น 8.45% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่
13,275.20 ล้านบาท
          ส่วนผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมานั้น นายเกรียงไกร กล่าวว่า ในส่วนของการค้าไม่ได้รับผลกระทบมาก
นักเนื่องจากใช้สกุลเงินท้องถิ่น ส่วนกรณีนักศึกษาเมียนมาต้องการเข้ามาหาสถานที่เรียนนั้นน่าจะเป็นโอกาสที่จะเปิดรับบุคลากรระดับ
ปัญญาชนเข้ามาช่วยทดแทนแรงงานที่ขาดแคลน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ