ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีกลอเรีย มาร์คาปากัล อาร์โรโย่ ของฟิลิปปินส์ได้ออกคำสั่งห้ามมิให้เกษตรกรทั่วประเทศปรับเปลี่ยนพื้นที่นาข้าวเป็นเวลา 2 ปี เพื่อเป็นการรับประกันว่า ฟิลิปปินส์จะมีผลผลิตข้าวที่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ
คำสั่งห้ามครั้งนี้ได้นีลความเห็นชอบจากประธานาธิบดีอาร์โรโย่เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเอกชนที่กำลังหาที่ดินปลูกพืชที่ให้ราคาดี เช่น กล้วย รวมถึงการพัฒนาที่ดินให้เป็นโครงการที่อยู่อาศัย
ทำเนียบประธานาธิบดีระบุในแถลงการณ์ว่า "คำสั่งห้ามในครั้งนี้ครอบคลุมถึงแปลงนาข้าวและพื้นที่ชลประทาน และพื้นที่สันทรายทุกแห่งที่เหมาะแก่การเพาะปลูก พื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจหรือพื้นที่เพาะปลูกของผู้ประกอบการด้านสินค้าเกษตร พื้นที่ในเขตที่ราบสูงตั้งแต่ 500 เมตรขึ้นไปที่สามารถเพาะปลูกพืชที่ขึ้นได้ในทุกสภาพภูมิอากาศและให้ราคาสูง รวมไปถึงพื้นที่เพาะปลูกที่มีความเปราะบางทางนิเวศวิทยา ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่ป่าชายเลนและเขตสงวนพันธุ์สัตว์น้ำ
คำสั่งห้ามปรับพื้นที่เพาะปลูกในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจว่า ฟิลิปปินส์จะมีปริมาณผลผลิตอาหารภายในประเทศมากพอที่จะใช้เลี้ยงปากท้องชาวฟิลิปปินส์ได้ในทุกสถานการณ์
"เราจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากที่ดินทุกผืนและต้องปกป้องผลผลิตข้าวด้วยการป้องกันมิให้มีการนำที่ดินไปใช้งานในด้านอื่นๆ เพื่อให้ชาวฟิลิปปินส์อุ่นใจได้ว่าผลผลิตข้าวจะมีเพียงพอต่อความต้องการของคนในประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฟิลิปปินส์มีพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 4 ล้านเฮคเตอร์ แต่มีผลผลิตข้าวประมาณ 92% ของความต้องการในประเทศ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์:
[email protected]