ผลสำรวจระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายภาคโรงงานและอสังหาริมทรัพย์ในจีนไต่ระดับขึ้น 25.6% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากจีนกำลังดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ยอดเงินลงทุนด้านสินทรัพย์คงที่ในเขตเมืองช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้จะเพิ่มขึ้นใกล้กับระดับ 25.7% จากปีที่ผ่านมา โดยสำนักงานสถิติจะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.
จีนกำลังฟื้นฟูถนนหนทาง สถานีจ่ายไฟฟ้า โรงงาน และบ้านเรือน หลังจากเกิดเหตุพายุหิมะครั้งรุนแรงในรอบ 50 ปีเมื่อเดือนม.ค.-ก.พ.รวมถึงเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 69,000 คน ซึ่งความต้องการอุปกรณ์ก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้นอาจส่งผลให้ราคาสินค้าแพงขึ้นจนกลายเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมเงินเฟ้อของธนาคารกลางจีน
"จีนจะมีเม็ดเงินลงทุนจากการก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นในปีนี้" เควิน ไล นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Daiwa Institute of Research กล่าว "แรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะยิ่งสูงขึ้นจากผลพวงของราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้น"
ดอยช์ แบงก์ เอจีกล่าวในรายงานว่า ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูการก่อสร้างของจีนหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านหยวน (2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งโครงการก่อสร้างเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นอุปสงค์ปูนซีเมนต์ เหล็ก และเครื่องจักรเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของจีนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ทะยานขึ้นแตะที่ 8.1% ซึ่งพุ่งขึ้นแซงหน้าปีที่ผ่านมา ขณะที่ธนาคารกลางตั้งเป้าเงินเฟ้อในปีนี้ไว้ที่ระดับ 4.8% และกล่าวว่าจีนจำเป็นต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมราคาสินค้า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์:
[email protected]