มอร์แกน สแตนเลย์ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสองเมื่อวันพุธว่า บริษัทมีกำไรร่วงลง 61% เนื่องจากวิกฤติสินเชื่อที่ยังคงส่งผลกระทบเลวร้ายต่อธุรกิจวาณิชธนกิจและเทรดดิ้ง
การเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการส่งผลให้หุ้นของมอร์แกน สแตนเลย์ ร่วงลงมากกว่า 5% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด แม้ตัวเลขดังกล่าวดีกว่าการคาดการณ์ของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในตลาดอยู่เล็กน้อยก็ตาม
วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐเปิดเผยว่า กำไรของบริษัทลดลงแตะ 1.01 พันล้านดอลลาร์ หรือ 95 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับระดับ 2.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.45 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีที่ผ่านมา
ขณะที่รายได้สุทธิในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. อยู่ที่ 6.51 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 38% จากระดับ 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีก่อน
ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากการระดมทุน 1.4 พันล้านดอลลาร์ผ่านทางการขายสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงธุรกิจบริหารสินทรัพย์ในสเปน โดยนักวิเคราะห์คาดว่ากำไรไตรมาสสองของมอร์แกน สแตนเลย์ จะอยู่ที่ 92 เซนต์ต่อหุ้น ด้วยรายได้ 7.05 พันล้านหุ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์:
[email protected]