สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าในที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 มิ.ย.นี้นั้น ที่ประชุมจะแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ขณะที่สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากรายงานความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ทรุดตัวลง สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 107.79 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 107.30 เยน/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0454 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0353 ฟรังค์/ดอลลาร์ สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.5523 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.5604 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่สกุลเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.9652 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9758 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.7572 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7614 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9513 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9538 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ค่าเงินยูโรถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก หลังจากสถาบันวิจัย Ifo ของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจประจำเดือนมิ.ย.ร่วงลงแตะระดับ 101.3 จุด จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 103.5 ในเดือนพ.ค. ซึ่งร่วงลงหนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงไปแตะที่ 102.5 จุด ฮาน-เวอร์เนอร์ ประธานของสถาบัน Ifo กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงกำลังกลายเป็นอุปสรรคที่ฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเยอรมนี" อังเดรส์ รีส์ นักวิเคราะห์จากยูนิเครดิตในเยอรมนีกล่าวว่า "ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเป็นมาตรวัดสุขภาพเศรษฐกิจได้แม่นยำในระดับหนึ่ง ซึ่งดัชนีในเดือนมิ.ย.บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีซบเซาลงอย่างหนัก และสินค้า 'Made in Germany' มาถึงจุดวิกฤติแล้วในขณะนี้" ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนจากสกุลเงินยูโรที่ร่วงลง และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าคณะกรรมการเฟดจะแสดงความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ส่วนในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 มิ.ย.นี้นั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ย