ศูนย์วิจัยกสิกรฯคาด กนง.คงอาร์/พีที่ 3.5% เงินเฟ้อกดดันน้อยลง-ศก.ยังโต

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 21, 2008 15:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ศุนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน (อัตราดอกเบี้ยนโยบาย) ไว้ที่ร้อยละ 3.50 ในการประชุมในรอบนี้ที่จะประชุมในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ภายใต้สถานการณ์แวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อน กอปรกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ ในโลกเริ่มมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ซึ่งกนง.อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการตัดสินใจในครั้งนี้
ทั้งนี้ การพิจารณาของกนง.จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจในการให้น้ำหนักหรือมุมมองที่มีต่อความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งกนง.คงจะรอติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก การปรับตัวของเศรษฐกิจหลักและตลาดการเงินโลก ตลอดจนเครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญของไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป
ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบนี้ที่น่าจะลดน้อยลงเมื่อเทียบกับในการประชุมรอบก่อนหน้า (16 ก.ค.51) หลังจากการคาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อมีทิศทางที่ผ่อนคลายลงกว่าเดิม ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลงและมาตรการบรรเทาผลกระทบจากภาครัฐ
อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ก.ค.ขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 9.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบทศวรรษ และและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงาน ก็อยู่เหนือกรอบบนของเป้าหมายเงินเฟ้อที่ร้อยละ 0-3.5 ของ กนง. ในเดือนก.ค.เป็นเดือนที่สองติดต่อกัน อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจยังคงอยู่เหนือร้อยละ 3.5 ต่อเนื่องตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้
นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่มีระดับสูงกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นเวลากว่า 10 เดือนติดต่อกันแล้ว ยังสะท้อนว่า แรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศอาจยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อไป อาจทำให้ กนง.มองว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงมีน้ำหนักที่มากอยู่
ในขณะที่ความเสี่ยงด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น จากแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจหลักในโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และภูมิภาคเอเชีย รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุนที่ยังคงถดถอย ตามภาวะค่าครองชีพสูงและสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ
แม้เศรษฐกิจไทยอาจมีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่อัตราการเติบโตที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.8 ในไตรมาส 2/51 ใกล้เคียงกับที่เติบโตร้อยละ 6.0 ในไตรมาสแรก อีกทั้งคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ยทั้งปี 51 ที่ประมาณร้อยละ 5.3 เทียบกับร้อยละ 4.8 ในปี 50 ก็ยังนับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่ง กนง.อาจมองว่า การเติบโตของเศรษฐกิจที่ระดับดังกล่าวยังน่าที่จะสามารถรองรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้อีกเล็กน้อยโดยไม่ส่งผลกระทบในเชิงลบที่มากจนเกินไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ