ไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล คอร์ป และปิโตรไชน่า ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จีนคาดว่า ธุรกิจการกลั่นของบริษัทจะขาดทุนลดลงในไตรมาส 3 หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์จากยูโอบี เคย์เฮียน คาดว่า ยอดขาดทุนจากธุรกิจการกลั่นน้ำมันของบริษัท ไชน่า ปิโตรเลียมอาจจะปรับตัวลง 42% เหลือ 3.44 หมื่นล้านหยวน หรือ 5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 จากระดับไตรมาส 2 ทางด้านนักวิเคราะห์จาก CLSA คาดว่า ธุรกิจการกลั่นน้ำมันของปิโตรไชน่าอาจจะขาดทุนลดลง 54%
ทั้งสองบริษัทจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ในวันพรุ่งนี้
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ส่งผลให้บริษัทกลั่นน้ำมันของจีนได้รับประโยชน์ เนื่องจากบริษัทไม่สามารถขึ้นราคาน้ำมันเพื่อผลักภาระต้นทุนได้ โดยแนวโน้มของปิโตรไชน่าและซิโนเปค เริ่มที่จะดีขึ้น
บลูมเบิร์กรายงานว่า นักวิเคราะห์จากยูโอบีกล่าวว่า หากราคาน้ำมันยังคงอยู่ที่ระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ค่าการกลั่นของซิโนเปคและปิโตรไชน่าจะอยู่ที่ 25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ 18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลตามลำดับ ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดในประวัติศาสตร์ของทั้งสองบริษัทเลยทีเดียว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กำไรไตรมาส 3 ของซิโนเปคอาจจะดิ่งลงถึง 62% แตะ 5.2 พันล้านหยวน เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 1.36 หมื่นล้านหยวน แต่ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวก็ยังสูงกว่ากำไรไตรมาส 2 ที่ 2.19 พันล้านดอลลาร์กว่า 2 เท่า เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา จีนซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันที่มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ได้ขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลอย่างน้อย 17% เพื่อช่วยผู้ประกอบการกลั่นน้ำมันลดยอดขาดทุน โดยรัฐบาลได้ควบคุมราคาน้ำมันและสินเชื่อเพื่อจำกัดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากเงินเฟ้อ