ผลสำรวจของสถาบัน GfK NOP ระบุว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือนพ.ย.ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวอังกฤษ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งได้จากการทำแบบสอบถามประชาชน 2,00 คนในระหว่างวันที่ 7-16 พ.ย.กระเตื้องขึ้นเพียง 1 จุด จากเดือนก่อนหน้านี้ไปอยู่ที่ระดับติดลบ 35 จุด ขณะที่ดัชนีชี้วัดสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1 แตะระดับติดลบ 71 จุด ซึ่งยังต่ำกว่าระดับในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 39 จุด
ทิโมธีย์ เบสลีย์ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยว่า สิ่งสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอังกฤษได้คือการกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ออกเงินกู้อีกครั้ง โดยตัวเลขขาดทุนในตลาดสินเชื่อและแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายและกระตุ้นให้ธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ลงสู่ระดับ 3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2498
ด้านราเชล จอย โฆษกของ GfK กล่าวว่า "ผู้บริโภคชาวอังกฤษยังคงได้รับผลกระทบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่เลวร้ายและความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราว่างงานเพิ่มมากขึ้น และแม้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ดูเหมือนจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคขึ้นมาได้บ้าง แต่พวกเขาก็ยังมีความกังวลต่อผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน"
เมื่อวานนี้ เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้เปิดเผยว่า ราคาบ้านของอังกฤษในเดือนพ.ย.ร่วงลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อได้บั่นทอนความต้องการซื้อขายและธนาคารได้ควบคุมการออกเงินกู้ เบสเลย์กล่าวว่า ผู้บริโภคจำเป็นต้องลดอัตราการชำระหนี้และหันมาออมเงินมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจขาดความสมดุล
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 2.25% ในการประชุมวันที่ 4 ธ.ค.นี้