เศรษฐกิจนิวซีแลนด์หดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งฉุดรั้งให้เศรษฐกิจในประเทศเผชิญถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี และข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับลดดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนหน้า
สำนักงานสถิตินิวซีแลนด์เปิดเผยว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของนิวซีแลนด์ปรับตัวลดลง 0.4% ในรอบไตรมาสที่สาม ต่อเนื่องจากที่ลดลง 0.2% ในไตรมาสสอง ขณะที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่าจะดิ่งลง 0.5%
ตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 ปี และตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาบีบคั้นให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้อุปสงค์สินค้าประเภทนมและเนื้อสัตว์ปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ อลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียซึ่งคาดว่า เศรษฐกิจจะซบเซา 0.3% อาจปรับลดดอกเบี้ยในเดือนหน้าลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2542
"ธนาคารกลางออสเตรเลียต้องลดดอกเบี้ยลงอีก" นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets กล่าว "อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูงเกินไปสำหรับเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญภาวะถดถอย เราคาดว่าธนาคารจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 2.00% ภายในไตรมาสที่สอง หลังจากที่ได้ลดดอกเบี้ยลงไปแล้วถึง 3.25% นับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา"นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือน ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 60% ของเศรษฐกิจปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 3 ไตรมาส ซึ่งทำสถิติเลวร้ายที่สุดในรอบ 21 ปี
ทั้งนี้ นิวซีแลนด์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ยุโรป สหรัฐ และสิงคโปร์ เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อทั่วโลกได้ส่งแรงกดดันต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและฉุดรั้งความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ตลอดจนทำให้บรรยากาศทางการค้าชะลอตัวลง
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าการนำเข้า-ส่งออกของนิวซีแลนด์ในปีหน้าจะหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 25 ปี ซึ่งการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของระบบเศรษฐกิจ