สำนักงานสถิติของออสเตรเลียเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในเดือนธ.ค. 2551 ดีดตัวขึ้น 4.5% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี เนื่องจากบริษัทเหมือง สายการบิน และบริษัทผู้ผลิตรถได้ปลดพนักงานประจำ ประกอบกับมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศจะเผชิญกับภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544
อัตราว่างงานเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.5% จากระดับ 4.4% ขณะที่อัตราจ้างงานพนักงานประจำร่วงลง 43,9000 ตำแหน่ง โดยยอดผู้มีงานทำทั้งหมดหดตัวลง 1,200 ตำแหน่ง ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นไว้ที่ 20,000 ตำแหน่ง เนื่องจากกลุ่มธุรกิจค้าปลีกได้จ้างพนักงานพาร์ทไทม์มากขึ้นในช่วงคริสต์มาส
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นว่าอาจจะทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศหดตัวลงนั้น อาจจะทำให้เกลน สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียลดดอกเบี้ยลงอีก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ริโอ ทินโต กรุ๊ป และออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ก็เป็นอีกบริษัทที่ได้ลดพนักงานลงท่ามกลางปัจจัยบ่งชี้ที่ว่าเศรษฐกิจของออสเตรเลียอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตามรอยสหรัฐ ยุโรป อังกฤษ และญี่ปุ่น
ริกี โพลีเกนิส นักเศรษฐศาสตร์ของเอเอ็นแซท แบงค์ กล่าวว่า อัตราจ้างงานพนักงานประจำที่ร่วงลงนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะสถานการณ์ดังกล่าวหมายความถึงช่วงขาลงในอนาคต และอาจจะทำให้แบงค์ชาติออสเตรเลียตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงในเดือนหน้า