นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภค ราคาบ้าน และอัตราจ้างงานยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งก่อให้เกิดกระแสความวิตกว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียกำลังถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2534
โดยนักเศรษฐศาสตร์ 11 จาก 20 ท่านจากการสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า เกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลาง อาจลดดอกเบี้ยเหลือ 3.25% จาก 4.25% ณ เวลา 14.30 น.ตามเวลาซิดนีย์ ส่วนอีก 9 ท่านที่เหลือคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยลงราว 0.75%
ภาคการส่งออกที่ซบเซา อัตราว่างงานที่พุ่งสูง และตลาดสินเชื่อที่ตึงตัว อาจเป็นแรงกดดันสำคัญที่ทำให้ผู้ว่าการธนาคารกลางต้องตัดสินใจลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่สุดในรอบเกือบ 20 ปี ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุด โดยสูงกว่าสหรัฐซึ่งอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 0.25% และสูงกว่ายุโรปซึ่งอยู่ที่ 2%
"การลดดอกเบี้ยแบบครึ่งๆกลางๆไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย" แมทธิว ฮัสสัน นักเศรษฐศาสตร์จากเวสท์แพ็ค แบงค์กิง คอร์ป ในซิดนีย์ กล่าว "มีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2% ยังแทบไม่สามารถกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้"นักวิเคราะห์เชื่อว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเช่นเดียวกับสหรัฐ อังกฤฤษ ญี่ปุ่น และยุโรปเรียบร้อยแล้ว หลังจีดีพีของประเทศขยายตัวเพียง 0.1%ในไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี
ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ส่งผลให้หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ในออสเตรเลียต้องทำการปลดพนักงานจำนวนมาก อาทิ บีเอชพี บิลลิตัน, ริโอ ทินโต, ฮาร์วีย์ นอร์แมน โฮลดิงส์ และ ออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงค์กิง กรุ๊ป เป็นต้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน