ภาคธุรกิจการบริการในสหรัฐยังหดตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนม.ค. แต่ยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าเดือนธ.ค.และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการบริการเดือนม.ค.ขยับขึ้นแตะระดับ 42.9 จุด ดีกว่าระดับ 40.1 จุดในเดือนธ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 39 จุด แต่ยังอยู่ในช่วงหดตัว (ต่ำกว่า 50 จุดถือว่าหดตัว)
ดัชนีภาคการบริการของ ISM ได้จากการสำรวจบริษัทต่างๆ ใน 18 อุตสาหกรรม อาทิ การโรงแรมและการท่องเที่ยว การค้าปลีก การดูแลสุขภาพ และการทำเหมืองแร่ เป็นต้น โดยในเดือนม.ค.มีเพียง 2 อุตสาหกรรมที่มีการขยายตัว ได้แก่ ภาคการดูแลสุขภาพและสังคมสงเคราะห์ และภาคการเงินและการประกันภัย
ในขณะเดียวกัน ยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่และยอดผลิตก็ปรับตัวลดลง แต่น้อยกว่าช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเช่นกัน
ด้านดัชนีการจ้างงานก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยหดตัวลงแตะ 34.4 จุดในเดือนม.ค. จาก 34.5 จุดในเดือนธ.ค. และมีเพียงอุตสาหกรรมเดียวที่มีการจ้างงานมากขึ้น นั่นคืออุตสาหกรรมการขนส่งและคลังสินค้า
อุตสาหกรรมค้าปลีกเป็นภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างบริษัท เมซี่ อิงค์ (Macy’s Inc.) ธุรกิจห้างสรรพสินค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ เพิ่งประกาศปลดพนักงานกว่า 7,000 คน พร้อมลดต้นทุน ลดเงินปันผลรายไตรมาส และลดเงินบำนาญของพนักงาน นอกจากนั้นยังปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการและยอดขายประจำปีด้วย
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า แม้รายงานดังกล่าวจะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจไม่ได้หดตัวลงอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเศรษฐกิจจะดีดตัวขึ้นในเร็ววันนี้ สำนักข่าวเอพีรายงาน