กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานประจำเดือนม.ค. ทำสถิติดิ่งลงหนักสุดในรอบ 35 ปีที่ 598,000 ตำแหน่ง และรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 524,000 ตำแหน่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้สร้างแรงกดดันให้บรรดานายจ้างต้องปรับลดจำนวนพนักงาน ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.6% เมื่อเทียบกับระดับ 7.2% ในเดือนธ.ค. และทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2535
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ตลาดแรงงานในสหรัฐกำลังอยู่ในภาวะเลวร้าย และสถานการณ์เช่นนี้จะยิ่งกดดันให้สภาคองเกรสและคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามาจำเป็นต้องผ่านมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและกำหนดแผนช่วยเหลือภาคการเงินโดยเร็ว
ทั้งนี้ โอบามาเชื่อว่ามาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่าเกือบ 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐที่เขาได้เสนอไปนั้นจะสามารถช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ตกงานอยู่ 3.6 ล้านคนนับตั้งแต่เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ ขณะที่นักวิเคราะห์หลายท่านมองว่า สถานการณ์ในตลาดแรงงานช่วงเดือนต่อไปก็จะเลวร้ายเช่นกัน และเชื่อว่าตลาดแรงงานจะยังไม่สามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้จนกว่าจะถึงปี 2554
อย่างไรก็ตาม แม้กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ร่วงลงแรงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ แต่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกลับมีแรงซื้อเข้าอย่างหนาแน่น เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่า สภาคองเกรสจะลงมติเห็นชอบมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเร็ว