บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายทั่วโลกของโตโยต้าในปีงบประมาณ 2551 ร่วงลง 11.7% จากระดับปีที่แล้ว เหลือเพียง 8.33 ล้านคัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ยอดขายของโตโยต้าร่วงลงเมื่อเทียบเป็นรายปี นับตั้งแต่ไดฮัทสุ มอเตอร์ และฮิโน่ มอเตอร์ส เข้ามาอยู่ในเครือของโตโยต้า กรุ๊ปในปีงบประมาณ 2542
ส่วนยอดขายรถยนต์ไตรมาสแรกของปีนี้ ร่วงลงอีก 27% เหลือเพียง 1.77 ล้านคัน โดยนายยูตะ คากะ โฆษกโตโยต้ากล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ของโตโยต้าครอบคลุมถึงยอดขายของบริษัทในเครือคือ ไดฮัทสุ มอเตอร์ และฮีโน่ มอเตอร์ส ซึ่งที่ผ่านมาโตโยต้าพยายามประคองกิจการให้สามารถอยู่รอดได้ทั้งในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐ และยุโรป
นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า ยอดขายของโตโยต้าจะร่วงลงอีกในปีงบประมาณ 2552 และคาดว่ายอดการผลิตรถยนต์โตโยต้าในญี่ปุ่นจะร่วงลงต่ำกว่าระดับ 3 ล้านคันในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 31 ปี
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับมือกับยอดขายที่หดตัวลง โตโยต้าตัดสินใจลดจำนวนพนักงานชั่วคราวและวางแผนลดต้นทุน รวมถึงลดเงินเดือนพนักงานลง 10% หรือประมาณ 5 แสนล้านเยน (5.1 พันล้านดอลลาร์) ในปีนี้
ก่อนหน้านี้ โตโยต้าประกาศตัวเลขขาดทุนครั้งแรกในรอบ 59 ปี เนื่องจากอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นและภาวะสินเชื่อตึงตัวส่งผลให้ดีมานด์รถยนต์หดตัวลงในสหรัฐซึ่งเป็นตลาดหลักของโตโยต้า นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยยังบีบให้โตโยต้าและค่ายรถยนต์รายอื่นๆในญี่ปุ่นแห่ปลดพนักงานและลดการผลิต ขณะที่ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ และไครสเลอร์ ต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล