ศรีลังกาต้องการให้จอร์จ โซรอส, มาร์ก โมเบียส และผู้จัดการกองทุนระดับสูงเข้ามาลงทุนในประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นให้ตลาดหุ้นศรีลังกาคึกคักมากขึ้น หลังสิ้นสุดสงครามกลางเมืองเมื่อ 26 ปีที่ผ่านมา ขณะผู้เชี่ยวชาญชี้การสิ้นสุดของสงครามคือจุดเปลี่ยนที่อาจสร้างผลประโยชน์มหาศาลให้กับนักลงทุนต่างชาติในศรีลังกา
"ตลาดหุ้นอยู่ในจุดที่เรียกว่าต่ำมาก ดังนั้น นักลงทุนต่างชาติจึงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการขยายตัวของตลาด" ชานนา เดอ ซิลวา ผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของศรีลังกากล่าว
โดยขณะนี้ก.ล.ต.ของศรีลังกากำลังเสาะหาวิธีกระตุ้นสภาพคล่องในตลาดด้วยการเริ่มเปิดธุรกรรมสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและเกลี้ยกล่อมให้บริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศเช่น Brandix Lanka Ltd. และ Dilmah Tea Co. ดำเนินการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น
"กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มคึกคักขึ้นหลังผ่านพ้นสงครามกลางเมืองไปแล้ว" มาลิก เฟอร์นานโด ผู้อำนวยการของดิลมาห์ ที บริษัทเจ้าของชาซีลอนชื่อดังระดับโลกกล่าว
ขณะเดียวกันเดอ ซิลวากล่าว "ตอนนี้ศรีลังกาได้เปิดกว้างสำหรับการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นเศรษฐกิจในประเทศเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจึงมีอยู่มาก"
ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นศรีลังกามีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 1 พันล้านรูปี (8.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หลังรัฐบาลศรีลังกาประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนพยัคฆ์ทมิฬอีแลมเมื่อวันที่ 16 พ.ค. และช่วงเวลาดังกล่าวดัชนีตลาดหุ้นไต่ระดับขึ้นถึง 12% ส่งผลให้ในปีนี้ดัชนีทะยานขึ้นแล้ว 42% อย่างไรก็ตาม ทางการตั้งเป้ากระตุ้นเม็ดเงินทุนให้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าแตะที่ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้ได้ภายในปีนี้
"ศรีลังกาจะเป็นเหมือนกับเวียดนามที่ ณ ตอนนี้ไม่มีใครในโลกที่ไม่รู้จักประเทศดังกล่าว ซึ่งอีกไม่นานศรีลังกาก็จะเป็นเช่นนั้น" เดอ ซิลวากล่าวทิ้งท้าย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน