บริษัท ปิโตรเลียม เนชั่นแนล บีเอชดี หรือปิโตรนาส เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของบริษัทในปีงบการเงิน 2551 ปรับตัวลดลง 14% แตะ 5.25 หมื่นล้านริงกิต หรือ 1.53 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากระดับ 6.1 หมื่นล้านริงกิตในปีงบการเงินก่อนหน้านี้ เพราะแม้บริษัทจะมียอดขายที่สูงขึ้น แต่ต้นทุนการดำเนินงานก็พุ่งขึ้นเช่นกัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ฮัสซัน มาริกัน ซีอีโอปิโตรนาสกล่าวในการแถลงข่าวว่า ปีงบการเงินที่ผ่านมาเป็นปีที่ลำบากและผันผวน สถานการณ์แวดล้อมก็ทำให้บริษัทมีต้นทุนสูง
ในช่วงปีงบ 2551 ราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยของมาเลเซียร่วงลงไปเกือบ 60% จากระดับราคาเฉลี่ยที่ 125.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงครึ่งปีแรก มาอยู่ที่ 50.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงครึ่งปีหลัง
ซีอีโอปิโตรนาสกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายด้านการผลิตยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น อัตราแท่นขุดเจาะน้ำมันก็สูงขึ้น 6.2% ส่วนราคาเหล็กโดยเฉลี่ยก็เพิ่มขึ้น 11%
ทั้งนี้ ยอดขายที่สูงขึ้นช่วยให้รายได้ของปิโตรนาสเพิ่มขึ้น 18.4% แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2.64 แสนล้านริงกิต อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่การจ่ายเงินคืนรัฐของบริษัทก็สูงขึ้นเช่นกัน โดยเงินคืนรัฐในรูปของภาษี ค่าโรยัลตี้ และผลประโยชน์ตอบแทน เพิ่มขึ้น 20% แตะ 7.4 หมื่นล้านริงกิต