กระทรวงกิจการภายในและสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค. จากระดับปีที่แล้ว แตะ 285,530 เยน เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551 แต่การดีดตัวขึ้นของยอดการใช้จ่ายเดือนพ.ค.ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณของการฟื้นตัวขึ้นของแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภค เนื่องจากตัวเลขของเดือนพ.ค.นั้นได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้ใช้โครงการแจกเงินสดถึง 20,000 เยนต่อคน รวมทั้งใช้โครงการจูงใจในชื่อ "eco-point" เพื่อกระตุ้นให้มีการซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ประหยัดพลังงาน ซึ่งผู้ซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวจะได้รับคะแนน และจะมีการนำคะแนนสะสมดังกล่าวมาแลกกับคูปองซื้อสินค้า รวมทั้งบัตรเงินในการซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ครั้งต่อไป
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงกิจการภายในฯ กล่าวว่า ตัวเลขการใช้จ่ายที่สูงขึ้นนั้นได้รับปัจจัยหนุนหลายอย่างในช่วงเวลาเดียว ดังนั้น แนวโน้มของยอดการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่อาจจะอยู่ในระดับต่ำนั้นก็ยังคงมีอยู่ต่อไป
เมื่อเทียบเป็นรายประเภทแล้ว การใช้จ่ายภาคครัวเรือนในด้านความบันเทิงและสิ่งของที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมเพิ่มขึ้น 0.5% เนื่องจากผู้ซื้อโทรทัศน์จะได้คะแนนสะสมจากโครงการ eco-points
ส่วนการใช้จ่ายด้านการเดินทางร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่ยอดขายแพ็คเกจทัวร์ภายในประเทศและต่างประเทศนั้นไม่ดีนัก ขณะที่การใช้จ่ายด้านการรักษาทางการแพทย์และสุขภาพ เพิ่มขึ้น 1.7% เนื่องจากประชาชนเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่งผลให้ประชาชนซื้อหน้ากากอนามัย น้ำยาบ้วนปากมากขึ้น